spacestr

🔔 This profile hasn't been claimed yet. If this is your Nostr profile, you can claim it.

Edit
jeerasitios
Member since: 2025-09-06
jeerasitios
jeerasitios 4d

พลิกโลก เหนือความคิด (2) หูทิพย์ตาทิพย์ที่พระพุทธเจ้าสอน เป็นหูตาที่สามารถมองเห็นได้ยินความปรากฏออกของอวิชชา คือ โลภะ-โทสะ -โมหะที่เข้ามาทางอายตนะ ชาวพุทธตริง ต้องปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสดาได้จริง จึงจะสมกับคำกล่าวที่ว่า "ยอมเสียสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ ยอมเสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาสัจธรรม" คนส่วนมากปฏิบัติตามเพียงสองวรรคแรก คือพอเจ็บป่วยก็ไปหาหมอ เสียเงินให้หมอเพื่อรักษาอวัยวะ ถ้าหมอบอกว่าเป็นมะเร็งต้องตัดอวัยวะทิ้งเราก็ยอมให้ตัดเพื่อรักษาอวัยวะ แต่มีใครในที่นี้บ้างไหมที่จะยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาสัจธรรม กล่าวคือ ยอมตายดีกว่าที่จะทำผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า สำหรับอาตมานั้น อาตมายอมตายขอเพียงให้พระธรรมกลับคืนมาสู่จิตใจของคน ชาวพุทธแท้ต้องเป็นอย่างนี้ นิพพาน แปลว่า ใจที่ปกติ สงบเย็น ไม่ไหลไปตามความพอใจและความไม่พอใจ คนที่มีจิตใจเช่นนี้เรียกว่าคนมีศีลมีธรรม คนมีศีลธรรม-คนบาป ศีล ไม่ได้หมายถึงศีลห้าข้อสิบข้อสองร้อยยี่สิบเจ็บข้อเพราะนั่นเป็นศีลสังคม ศีลในที่นี้มีเพียงข้อเดียว เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องรักษากันจริงๆจังๆ คือให้รักษาใจ เป็น ศีลใจ ใครรักษาได้ก็ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น มีจิตใจปกติ เพราะเมื่อจิตใจปกติดีแล้ว เราก็ไม่ไปฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์อยากได้ของใคร ไม่ผิดลูกเมียใคร เมื่อใจปกติ กายวาจาก็พลอยปกติไปด้วย คนเช่นนี้เรียกว่า คนมีศีลธรรม คนมีบุญ คนมีบุญจะไม่ฆ่า "สัจจ์" ของตัวเอง เพราะสัจจ์นี้เป็นธรรมะที่ทำให้คนเป็นพระ สัจธรรมนี้ มีอยู่ในจิตใจของคนทุกคน ความเป็นพระที่แท้จริงนี้เป็นกันที่จิต มองไม่เห็น แต่กำจัดกิเลสได้จริง ส่วนสมมติสงฆ์ หมายถึง พระตามรูปแบบที่โกนห่มผป้าเหลือง อย่างเช่นวันนี้ยังเป็นผู้ครองเรือนพรุ่งนี้ไปบวช เราเรียกว่าเป็นพระโดยสมมติเพราะยังกำจัดกิเลสไม่ได้ การโกนผมห่มผ้าเหลืองไม่ได้ทำให้คนเป็นพระได้ คนบาป คือคนที่ไม่มีศีลไม่มีความละอาย มีความอิจฉาริษยา ฯลฯ คนพวกนี้พอพูดเรื่องศีลธรรมให้ฟังจะไม่สนใจ เพราะความบาปครอบงำจิตใจ มีโลภะ โทสะโมหะอัดแน่นอยู่ภายในจิตใจ เห็นของใครก็อยากได้ จึงมีการปล้นจี้ มีการผิดลูกเมียคนอื่น มีการเบียดเบียนก่อความเดือดร้อน ต่างๆนาๆ หูทิพย์-ตาทิพย์ ที่อาตมาได้กล่าวในตอนต้นว่า พระพุทธเจ้าสอนให้มีหูทิพย์ตาทิพย์นั้นก็หมายถึง เป็นหูตาที่สามารถมองเห็นได้ยินความปรากฏออกของอวิชชา คือ โลภะ โทสะ โมหะ ที่เข้ามาทางอายตนะ . ไม่ใช่รู้เห็นได้ยินอะไรอย่างอื่น กิเลสทั้งสามนี้ เปรียบเหมือนโจรเหมือนพญามารที่เข้ามาแย่งชิงเอาบัลลังก์หรือที่ตั้งของสติ-สมาธิ-ปัญญาไป ทำให้ผู้นั้นขาดความสะอาด-สว่าง-สงบ หูทิพย์-ตาทิพย์ ชนิดนี้แหละที่พวกเราควรหาเอาไว้, เพราะเป็น หูทิพย์-ตาทิพย์ ที่จะนำเราเข้าสู่พระนิิพาน มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่มีทุกข์ แม้นในขณะที่ฟังอาตมาพูดอยู่นี้ ก็ขอให้มีศีลมีธรรมประจำใจ คิดชอบก็ให้รู้ คิดชังก็ให้รู้ ฟังล้วไม่รู้เรื่องเบื่อรำคาญ จิตใจนึกคิดอย่างไรให้รู้ให้เห็น เราจะมีหูทิพย์ตาทิพย์ประเภทนี้ได้ก็ต้องฝึกสติฝึกสมาธิ ต้องมีสติมีสมาธิอยู่ทุกขณะ นั่นคือ จิตใจนึกคิดอย่างไรให้รู้-ให้เห็น ที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้แก้ปัญหาปัจจุบันนั้นก็คือ ขณะที่ผัสสะลงไปนั่นแหละท่านให้มีสติสมาธิปัญญารู้เห็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับจิตใจ ดังนั้น สติสมาธิปัญญาจะต้องพร้อมอยู่ทุกขณะจึงจะไม่เสียที่แก่พญามาร ผู้ใดมีสติสมาธิปัญญาเอาชนะทุกข์ได้อย่างนี้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็จัดว่าเป็นผู้มีตาทิพย์-หูทิพย์ ระดับหนึ่ง เพราะเป็นผู้ที่สามารถมองเห็นสวรรค์ในอกนรกในใจของตัวเองได้บ้างแล้ว #Siamstr #สัจธรรม #buddhism

#Siamstr #สัจธรรม #buddhism
jeerasitios
jeerasitios 5d

พลิกโลก เหนือความคิด (1) หูทิพย์ตาทิพย์ที่พระพุทธเจ้าสอน เป็นหูตาที่สามารถมองเห็นได้ยินความปรากฏออกของอวิชชา คือ โลภะ-โทสะ -โมหะที่เข้ามาทางอายตนะ การฟังธรรมะวันนี้ อาตมาจะนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้า มาเล่าสู่ฟังตามสมควรแก่เวลา พวกเรามาทีนี่ก็เพื่อมาเจริญสติ-สมาธิ-ปัญญา คำว่า เจริญ หมายถึงทำให้มาก หรือทำให้ก้าวหน้านั่นเอง พระพุทธเจ้ามีญาณสามารถมองเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง ดังนั้น เราก็ต้องปฏิบัติให้ได้อย่างนั้นบ้าง ฌาน-ญาณ ญาณ แปลว่า รู้แจ้งเห็นจริงเข้าใจจริง แต่คนส่วนมากไปเข้าใจว่า จะมีญาณได้จะต้องเข้าฌานเสียก่อน ฌานชนิดนั่งหลับตาตัวแข็งทื่อ ฌานเหาะได้หายตัวได้เหล่านี้พระองค์มิได้นำมาสอน เพราะไม่ได้ทำให้รู้แจ้งเห็นจริงพ้นทุกข์ได้ พระพุทธเจ้าทรงสอนแต่เฉพาะญานและฌานที่จะทำให้มีหูทิพย์ตาทิพย์ได้เท่านั้น ขอให้ท่านทั้งหลายทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง การเข้าฌาน คือ การมีสติรู้เห็นความรู้สึกทางกายในอิริยาบถต่างๆและรู้เห็นความรู้สึกนึกคิดของจิตของใจ เช่น รู้สึกว่ารัก ชอบ โกรธ เกลียด อิจฉา ริษยา ห่วง กังวล หงุดหงิด ซึมเศร้า เป็นต้น ฉะนั้น เราจึงเข้าฌานได้ทุกขณะไม่ว่าจะกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อมีสติอยู่อย่างนี้ ความหลังผิดก็จะไม่เกิดขึ้นกับจิตใจ และจิตใจที่ปราศจากความหลงผิดนี้จะมีปัญญามองเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง,นี้เองที่เรียกว่าญาณ ญาณและฌานชนิดนี้เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าและพระสาวก, ถ้าเราทำตัวเราให้มีบ้าง ก็จะเป็นการยกระดับจิตใจของเราเอง อย่างน้อยก็จะเป็นผู้ได้ ดวงตาเห็นธรรม คือ หูทิพย์ตาทิพย์ หรือได้กระแสพระนิพพานนั่นเอง นิพพานในทีนี้ ไม่ได้หมายถึงนิพพาน ที่จะรอเอาต่อตายแล้ว , แม้การทำบุญให้ทานรักษาศีลก็เหมือนกัน มิใช่ทำเพื่อเอาสวรรค์ตอนตาย ใครที่คิดเช่นนี้แสดงว่ายังไม่เข้าใจ ยังไม่มีหูทิพย์ตาทิพย์ เป็นการคาดฝันนึกคิดเอาเอง ส่วนผู้มีญาณนั้นทำบุญวันนี้ก็ได้บุญวันนี้ ทำทานรักษาศีลเจริญกรรมฐานวิปัสสนากรรมฐานวันนี้ก็ต้องได้วันนี้ ไม่ต้องเอาตอนตาย ต้องเอาขณะกำลังทำอยู่ กำลังพูด กำลังคิดอยู่นี่แหละ พระพุทธองค์ตรัสว่า อดีตอนาคตไม่ต้องคำนึงถึง ให้นึกถึงเฉพาะปัจจุบัน นรก-สวรรค์-นิพพาน ทุกคนอยากไปสวรรค์ใช่ไหม อาตมาจะชี้ประตูสวรรค์ให้เดิน : ประตูที่หนึ่งคือตา ตาที่มองเห็นรูปสวยๆงามๆเกิดความชอบใจพอใจอิ่มใจ , ประตูที่สองคือ หู หูได้ยินเสียงเพราะเกิดความชอบใจไม่พอใจ ,ประตูที่สาม คือจมูก จมูกได้กลิ่นหอมเกิดความชอบใจพอใจอิ่มใจ , ประตูที่สี่ คือ ลิ้น ลิ้นที่ได้รสอร่อยเกิดความชอบใจพอใจอิ่มใจ ,ประตูที่ห้าคือกาย กายสัมผัสอ่อนนุ่มเกิดความชอบใจพอใจอิ่มใจ ,ประตูที่หกคือใจ ใจคิดถึงเรื่องสนุกที่ไม่ผิดศีลธรรมเกิดความพอใจอิ่มใจ สวรรค์ไม่ได้เป็นชั้นๆ อยู่บนฟ้า สวรรค์อยู่ที่ตัวเรา ประตูนรกก็อยู่ที่ตัวเรา, อยู่ที่ ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ : แต่แทนที่จะสัมผัสของสวยงามของดีของอร่อย กลับเป็นของไม่ดีไม่งามไม่อร่อย ทำให้เกิดความไม่พอใจโกรธเกลียดเคียดแค้นชิงชังเศร้าเสียใจร้อนใจ-ทุกข์. นั่น-ตกนรกแล้ว จะเห็นว่า ทั้งสวรรค์และนรกรวมอยู่ที่จุดเดียวคือใจ. เมื่อใดที่เรามองเข้าไปในจิตใจได้นั่นแหละ เราจะเห็นนรกสวรรค์กันจริงๆ นิพพานก็อยู่ที่จุดนี้เหมือนกัน คืออยู่ที่ใจ คนโบราณท่านสอนเอาไว้ว่า สวรรค์ในอกนรกในใจ พระนิพพานก็อยู่ในใจนั่นเอง เราเคยได้ยินได้ฟัง จำได้พูดได้ แต่ไม่ได้หาเอาด้วยฝีไม้ลายมือของตัวเองก็เลยไม่มี จึงต้องไปตามตำรับตำรา พูดตามๆกัน ไม่สามารถพูดสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิตใจของตัวเองได้ จึงไม่สามารถเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จนเอามาเป็นที่พึ่งได้จริง ดังนั้น เราจึงไม่อาจนับเนื่องเข้าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าได้ เป็นชาวพุทธกันก็เพียงแค่สำมะโนครัวเท่านั้น ไม่ได้เป็นชาวพุทธที่แท้จริง #Siamstr #Sati #Dhamma #Bhudditsm #Realsim

#Siamstr #Sati #Dhamma #Bhudditsm #Realsim
jeerasitios
jeerasitios 6d

ตอนหนึ่งจากหนังสือ “พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาตัวตน” (1) พระไพศาล วิศาโล ปัญหาตัวตนของลัทธิบริโภคนิยม กล่าวได้ว่า ลัทธิบริโภคนิยม หรือวิถีปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนความเชื่อว่าความสุขอยู่ที่การบริโภค ได้กลายเป็นศาสนาใหม่ของคนยุคปัจจุบันไปแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้คนเข้าหา เพื่อสนองตอบความต้องการทางจิตวิญญาณ ทุกวันนี้ลัทธิบริโภคนิยมกลายเป็น ทางออก หรือศาสนาที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนมาก เพราะประการแรก มันช่วยให้เข้าถึงความสุขได้ง่าย สะดวก ให้ผลเร็ว ทำไมผู้คนจึงนิยมไปร้านเซเว่น เพราะมันสะดวกเข้าถึงเรียกว่า convenience store เดี๋ยวนี้ผู้คนต้องการความสุขที่เสพได้ไวหรือเกิดขึ้นเร็ว เรียกว่า instant happiness เป็น ความสุขที่เกิดขึ้นได้ง่าย แค่กิน instant coffee ก็เกิด instanthappiness แล้ว ทำ ไม fast food ถึง เป็นที่นิยิมของผ้คนเพราะมันตอบสนองความต้องการของผู้คนได้เร็ว ยิ่งเดี๋ยวนี้ใครอยากกิน อะไรอร่อยๆ ก็ไม่ต้องไปร้านแล้ว แค่อยู่ที่บ้านก็ได้ เพราะ มีดีลิเวอรี่มาส่งถึงบ้าน นี่คือเสน่ห์ของบริโภคนิยม มันให้ความสุข ที่เร็ว ง่าย สะดวก ประการที่สอง บริโภคนิยมนำเสนอวัตถุสิ่งเสพที่หลากหลาย ถ้าอยากดูหนังฟังเพลง ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบตามห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าอยากซื้ออะไร เขามีให้เราเลือกมากมายหลายชนิด อย่าว่าแต่สบู่ ยาสีฟัน แชมพู แม้กระทั่งไอศกรีม น้ำผลไม้ เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ความหลากหลายดัง กล่าว ทำให้เรารู้สึก ว่าเรามีอิสระ เสรีมากขึ้น เรามีอิสระที่จะเลือก แทบไม่มีขีดจำกัด สามารถปรุงแต่งตัวตนได้หลากหลายตามใจปรารถนา ถ้าคุณอยากมีตัวตนที่ภูมิฐาน อยากมีภาพลักษณ์ของนักธุรกิจที่สำเร็จ ก็นั่ง Benz แต่ถ้าอยากมีตัวตนที่อิสระใช้ชีวิตที่เต็มร้อย ก็นั่ง Lamborghini อยากมีภาพลักษณ์นัก ผจญภัยชอบลุย ก็นั่ง Jeep หรือ Land Rover คุณเลือกตัวตน แบบที่ต้องการได้เลย ถ้ามีเงินน้อยกว่านี้ก็ยังเลือกได้ ด้วยการ ซื้อของที่ราคาถูกกว่า เช่น เสื้อ รองเท้า บริโภคนิยมให้อิสระแก่เราในการเลือกสร้างตัวตน อีกทั้งง่ายและสบายด้วย เพราะเพียงแค่มีเงินซื้อเท่านั้น ตัวตนใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาได้ทันทีมันยังทำให้เรารู้สึกว่าเรามีอำนาจเป็นอำนาจที่เกิดจากการมีเงิน ได้ครอบครองเทคโนโลยี สามารถประกาศ ให้โลกรู้ว่า เราเป็นใคร กำลังทำอะไร เวลาไปเที่ยวที่ไหน พบดาราคนไหน พิชิตยอดเขาอะไร เราสามารถประกาศให้โลกรู้ได้ทันที ทำให้คนทั้งโลกอิจฉาเราได้ พระพุทธเจ้าเปรียบสุขจากวัตถุหรือกามสุขว่าเหมือนกับแสงสว่างที่เกิดจากคบไฟที่ทำด้วยหญ้าแห้งมันให้แสงสว่างก็จริง แต่เป็นแสงสว่างที่ไม่นวลแถมยังมีควันที่ทำให้ระคายเคือง อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการแสวงหาคำตอบด้วยวิธีนี้ก็คือ แม้เป็นคำตอบที่ได้มาง่าย รวดเร็ว แต่ก็ให้ความพอใจชั่วครู่ชั่วยาม ความสุขที่ได้จากวัตถุสิ่งเสพนั้น เป็นสุขชั่วคราวได้มาง่าย รวดเร็วทันใจก็จริง แต่ก็หายไปเร็ว แม้เราจะมีความสุข ทันทีที่ได้เสพได้ซื้อ ไม่ว่ารองเท้า กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่นานเราก็จะเบื่อ แล้วก็อยากจะได้ตัวใหม่ ทำไมบางคนมีรองเท้าถึง ร้อยคู่ หรือ สองร้อยคู่ เพราะไม่ว่าซื้อกี่คู่ ความสุขที่ได้ไม่เคยยั่งยื่น หรืออยู่นาน ตอนที่ได้มาใหม่ก็ดีใจมีความสุข แต่พอผ่านไปสองสามเดือนก็รู้สึกเฉยๆ และต่อมาก็เบื่อ ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขอีก ก็ต้องไปซื้อคู่ใหม่ ได้มาก็มีความสุขแต่แล้วก็เบื่ออีก ต้องซื้อใหม่ เป็นเช่นนี้ไม่หยุดหย่อน ทำไมบางคนมีรถซูเปอร์คาร์ราคายี่สิบล้านถึงสิบห้าคันก็เพราะแต่ละคันให้ความสุขแก่เขาชั่วคราวเท่านั้น ตอนที่ซื้อมาคันแรก ก็มีความสุขดี แต่พอใช้ไปสี่ห้าเดือน ความสุขก็จืดจางทำอย่างไรถึงจะมีความสุขอีก ก็ต้องซื้อคันที่สอง มีความสุข สักพัก สี่ห้าเดือนก็เบื่อ ความสุขจืดจาง จึงซื้อคันใหม่ จนมีถึงสิบคันแล้ว ก็ยังอยากได้คันที่สิบเอ็ดอีก แต่เดาได้เลยว่า ไม่นานก็อยากได้ คันที่สิบสองและเมื่อ ได้มาแล้ว ก็ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มหรือไม่รู้สึกพอเสียที ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะความสุขที่ได้จากรถนั้น จืดจางเร็ว เรียกว่า “สุขชั่วคราว” แต่นอกจากสุขชั่วคราวแล้ว มันยังเจือไปด้วยทุกข์ ทุกข์เพราะต้องรักษา เวลาขับรถราคายี่สิบล้าน ก็ไม่กล้าจอดริมถนนเพราะกลัวโดนขูดโดนขีด แม้จอดที่บ้านก็ยังรู้สึกกังวล กลัวหนูจะเข้าไปกัดสายไฟหรือทำให้รถเสีย ต้องสร้างอู่เฉพาะให้มัน บางอู่ถึงกับติดกระจกทั้งสี่ด้าน และติดแอร์ด้วยเพื่อกันหนู ยังไม่ต้องพูดถึงการดูแลมันให้มีสภาพดีและใหม่เสมอ คนโบราณเขาบอกว่า “มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว” คำพังเพยนี้สะท้อนให้เห็นว่า การมีวัตถุที่มีค่ามีราคานั้น สร้างภาระ ให้แก่เรา นี่คือความทุกข์อย่างหนึ่ง #Siamstr #Dhamma

#Siamstr #Dhamma
jeerasitios
jeerasitios 22d

ระบบเงินเฟ้อ (เงินเฟียต) ส่งเสริม "High Time Preference" (การให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากกว่าอนาคต) ซึ่งนำไปสู่การเกษตรแบบ เน้นผลผลิตสูงสุดระยะสั้น เพื่อเร่งทำกำไรก่อนที่มูลค่าเงินจะลดลงการ ปุ๋ยเคมี เป็นผลผลิตหลักของการปฏิวัติเขียว (Green Revolution) ที่ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในระยะสั้น การใช้ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเนื่องจะเน้นการป้อนสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของพืช แต่ไม่ได้บำรุง ความอุดมสมบูรณ์ของดิน (Soil Health) เช่น ปริมาณอินทรียวัตถุ โครงสร้างจุลินทรีย์ และความสามารถในการกักเก็บน้ำ ดินจึงเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ เกษตรกรจึงต้องเพิ่มปริมาณปุ๋ยมากขึ้นทุกปี เปลี่ยนจากการทำเกษตรเป็นการทำเหมืองดิน (Soil Mining) เพื่อดึงแร่ธาตุที่เหลืออยู่มาใช้ การผลิตปุ๋ยเคมี เช่น ฟอสฟอรัส ต้องพึ่งพาการขุด เหมืองแร่ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดของโลก การทำลายจึงเกิดขึ้นทั้งจากการขุดแร่และการใช้งานที่ปลายทาง เกษตรกรถูกกระตุ้นให้ กู้ยืมเงิน เพื่อซื้อปัจจัยการผลิตราคาแพง (ปุ๋ยเคมี น้ำมัน เครื่องจักร) ทันที ก่อนที่ราคาจะสูงขึ้นอีกในปีหน้า วงจรนี้บังคับให้พวกเขาต้องทำเกษตรเชิงเดี่ยวที่ให้ผลผลิตสูงสุดเพื่อเร่งใช้หนี้สิน เกษตรกรเลือกวิธีการที่ ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด ในการเพิ่มผลผลิต คือ การใช้ปุ๋ยเคมี แทนวิธีการเกษตรแบบยั่งยืน เช่น การทำปุ๋ยหมัก การปลูกพืชหมุนเวียน หรือวนเกษตร ที่ต้องใช้เวลาและแรงงาน แต่จะให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนกว่าแต่ในโลกของระบบเศรษฐกิจแบบเงินเฟียต (Fiat system) นั้นการใช้เวลาและแรงไปกับการเห็นแก่เวลาต่ำเหมือนถูกสาปจากระบบเศรษฐกิจเพราะเงินที่เกษตรกรใช้เป็นเงินในระบบเงินสร้างง่าย(Easy Money) เงินที่ไม่สามารถเก็บคุณค่าข้ามผ่านระยะเวลา ความสามารถในการซื้อ(Purchasing) ที่ลดลงทุกเวลานั้น ในมุมมองนี้ ยุคเงินเฟ้อ ไม่เพียงแต่ทำลายความมั่งคั่งของประชาชน แต่ยัง ทำลายฐานรากทางกายภาพของดิน ที่ค้ำจุนอารยธรรมมนุษย์ไว้ด้วย ดินคือแหล่งผลิตอาหาร ดินคือแร่ธาตุที่จำเป็นกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ดังนั้น แนวคิดนี้จึงชี้ว่า หากมนุษย์เปลี่ยนไปใช้ "เงินที่ดี" (Hard Money) ที่ส่งเสริม Low Time Preference (เห็นแก่อนาคต) เกษตรกรจะได้รับแรงจูงใจในการลงทุนกับสุขภาพของดินและระบบนิเวศในระยะยาวมากขึ้น ซึ่งเป็นการย้อนกลับวงจรการทำลายนี้ #Siamstr #HardMoney #FixthemoneyFixtheworld ดูน้อยลง

#Siamstr #HardMoney #FixthemoneyFixtheworld

Welcome to jeerasitios spacestr profile!

About Me

Farmer,maxi,teacher ,labor ,bhuddism

Interests

  • No interests listed.

Videos

Music

My store is coming soon!

Friends