ดอกเบี้ยคืออะไร? #siamstr
🔔 This profile hasn't been claimed yet. If this is your Nostr profile, you can claim it.
Edit
ดอกเบี้ยคืออะไร? #siamstr
เรียนเพื่อให้ไม่เหมือนคนอื่น เรียนเพื่อให้เหมือนคนอื่น https://youtu.be/Kve7wImsTqs
ผมชอบนะ ตัวหนังสื่อให้เห็นภาพของการใช้ประโยชน์จากการล่าแม่มดคอมมิวนิสในอเมริกาได้ชัดเลย ขนาดที่ว่า Oppenheimer ใช้ความเป็นฮีโร่ของชาติ ก็ยังแพ้ให้กับความหลอนคอมมิวนิสของอเมริกาในยุคนั้น มันจะมีเรื่องของ Hollywood Blacklist หลังเหตุการณ์ทิ้งระเบิด ที่ FBI เริ่มสงสัยคนในวงการภาพยนตร์ว่าสมคบคิดลัทธิคอมมิวนิสแล้วแอบใส่โปรพากันดาลงในหนัง ทำให้โดน FBI เรียกทั้งผู้กำกับ นักแสดง ไปสอบสวนด้วย
ตื่นไวกว่านาฬิกาปลุก เพราะว่าเจอกับ recurrent dream + false awakening + memory loss - สถานที่เดิม (ทั้งเมือง, ย่อยเป็นบ้านต่างจังหวัด, ย่อยเป็นห้องนอน) - ผู้คน (น้องชาย, แม่ และพ่อที่ตายไปแล้ว) - เรื่องราว (ตื่นในความฝัน, ลุกจากเตียงนอน และคำถามว่าวันนี้จะต้องไปทำงานหรือเป็นวันหยุด) - เรื่องราวซ้อนชั้น (คำถามในหัวขณะที่ฝันคิดว่าจะต้องไปทำงานรึเปล่า คือต้องเดินทางยังไง และเห็นภาพที่เป็นวิธีที่เคยใช้เดินทางสมัยไปโรงเรียน, ไปฝึกงาน และไปทำงาน ต่างวิธีกันในโลกจริง) - แทรกกันระหว่างข้อมูลโลกจริงกับความฝัน (นึกออกว่าที่ทำงานในชีวิตจริงคือที่ไหน แต่ความฝันพยายามจะทำให้จำไม่ได้ และเติมที่ทำงานปลอม ๆ ขึ้นมา) - ความรู้สึก (เหมือนตื่นขึ้นในความฝันแล้วความจำเสื่อม เพราะข้อมูลซ้อนทับกันระหว่างความจริงกับความฝัน ทำให้พยายามจะนึกให้ออกว่าอะไรคือความจริง) ตื่น 5:27 (บันทึกไว้สำหรับรอบหน้า มันเกิดขึ้นอีกแน่นอน) #siamstr
หนังเรื่อง Oppenheimer (2023) กว่า 3 ชม. บอกกับเราว่าโลกไม่เคยตรงไปตรงมา ไม่เลย ไม่ได้ต่างจากกลศาสตร์ควอนตัม และแนวคิดแบบนิวตัน ความตรงไปตรงมา ความจริงเพียงหนึ่งเดียวนั้นใช้ไม่ได้ทั้งกับจักรวาล หรือแม้แต่กับมนุษย์ คือองค์ประกอบของสิ่งเล็ก ๆ ที่คาดเดาไม่ได้ มันจะมีอยู่จริงเมื่อนำมันมาพิจารณา และจะอันตรธานหายไปเมื่อเราไม่ได้สังเกต และขอบเขตที่เราได้รับอนุญาต คือการที่เราได้หยุดเวลาของสิ่งนั้นไว้เพียงชั่วครู่ขณะหนึ่ง และยาวนานได้เพียงกรอบเวลาของอายุไขที่เรามี คุณธรรมของมนุษย์ ดำรงอยู่ตรงไหนในความเป็นจริงที่แน่นอนของเขา มีใครบ้างที่ยึดถือคุณธรรมหนึ่งเดียวไปทั้งชีวิตโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป มันเป็นได้ทั้งคลื่นที่ซ่อนเร้นและอนุภาคที่นำออกมาแสดงให้เห็นในขณะนั้น และไม่ได้ปรากฏตัวเช่นเดิมกับสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป กับผู้คนที่แตกต่าง แม้แต่ความไม่ซื่อตรงที่มีต่อตัวเขาเอง หรืออาจเพราะความซื่อตรงที่มีต่อตัวเขา "เราอาจรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาจรับรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงของมัน" หนังเรื่องนี้ไม่ได้สื่อออกมาเพียงภาพของความอัจฉริยะที่คน ๆ หนึ่ง ของคนกลุ่มหนึ่งที่มารวมตัวกันจะสามารถมีได้ ทฤษฎีที่เป็นเพียงนามธรรมที่ถูกนำออกมาใช้ให้เกิดเป็นความจริงเชิงประจักษ์ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการถ่ายทอดผ่านผงของแท่งชอล์กที่ขีดลงเป็นตัวเลขหรือคำอธิบายเป็นตัวอักษรบนแผ่นกระดานดำ แต่จากทุก ๆ สิ่งที่เป็นตัวตนของเขาทั้งชีวิต ของพวกเขา ความซับซ้อนของมนุษย์ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อสู้กับทฤษฎีที่ท้าทาย องค์ประกอบอื่น ๆ ในอีกหลากหลายมิติที่ตัวหนังนำเสนอ การเมือง สงคราม การแข่งขัน หรือแม้แต่กับมนุษย์ที่เคยเป็นพันธมิตรในการร่วมมือกันทำสิ่งหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง แม้ผิดใจกันเพียงครั้งเดียวก็สามารถจุดชนวนของสงครามครั้งใหม่ขึ้นมาได้ ดำเนินขึ้นอย่างลับ ๆ จนถึงช่วงเวลาที่สุกงอมเหมือนผลไม้ที่สุกเน่าคาต้น พร้อมที่จะร่วงหล่นลงบนดินเพื่อเจริญงอกงามเป็นเรื่องราวใหม่ เป็น 3 ชม. ที่คุ้มค่ามาก ๆ ในบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์ [block time : 926,813] ว่าแล้วชักอยากจะกลับไปอ่าน Helgoland อีกรอบ ถึงไฮเซนเบิร์กผู้ค้นพบกลศาสตร์เมทริกซ์ขณะปลีกวิเวกบนเกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่งอังกฤษอย่างยากลำบาก คู่ขัดแย้งของฟังก์ชันคลื่นจากชโรดิงเจอร์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งการเที่ยวพักผ่อนกับชู้รักในเทือกเขาแอลป์ ต้นธารแห่งความไม่เข้าใจในกลศาสตร์ควอนตัมที่ไม่มีใครเข้าใจมันได้จริง ๆ แต่มนุษย์ก็ยังคงสามารถนำมันมาใช้สร้างเป็นระเบิดที่ทำลายล้างกันเองได้ในที่สุด --- Note: ความสนใจเฉพาะ Oppenhiemer (2023) "บัดนี้เราคือ[ความตาย]คือผู้ทำลายล้างโลกทั้งมวล" ภควัทคีตา บรรพ 11 โศลก 32 https://vedabase.io/en/library/bg/11/32/ Kālah ในที่นี้แปลว่า "เวลา" กาลเวลาเกี่ยวข้องยังไงกับความตาย? Oppenheimer มองเห็นตัวเองเป็นผู้เร่งรัดเวลาให้นำสู่การทำลายทุกสิ่ง? #siamstr #siamstrOG
ผมน่าจะไม่ได้ไปนะครับ, ฝากสนุกกันเผื่อด้วยครับ :)
ความแตกต่างเมื่อทดลองใช้งาน AI ในรูปแบบการถามตอบเรื่องนิยามของ "ปิตาธิปไตย" Gemini (Google Search) = ตอบแบบให้เห็นภาพรวมตั้งแต่ต้นกำเนิดในอดีตไปจนถึงมุมมองสมัยใหม่จากเฟมินิสต์ที่มีต่อแนวคิดปิตาธิปไตย GPT 5.1 Thinking = ความคิดเห็นจากฝั่งเฟมินิสต์ จบ, กลับไปใช้ตัว 4o ไม่ก็ 5.0 #siamstr
ถ้าอยู่ในจุดที่สามารถเลือกเพื่อนร่วมงานที่จะต้องทำงานด้วยกันได้ คุณจะเลือกคนแบบไหนให้มาทำงานด้วยกันกับคุณ สำหรับผมในตอนนี้คำตอบมันง่ายมาก เลือกคนที่จะทำงาน เหมือนกับว่ากำลังเป็นเจ้าของงานที่เขาจะต้องทำ #siamstr
ไม้สำหรับวันพรุ่งนี้ : Das Holz für morgen #siamstr
ส่ง Spy เข้าไปยึดเบสฝั่งตรงข้าม แล้วหลังจากนนั้นจะกลายเป็นเกมสร้างเมือง 555
"การทำให้แสงกลายเป็นของไหลที่แข็งเป็นผลึก ในขณะที่ยังคงไหลได้" รอบที่ 4 ก็ยังไม่เข้าใจ 555 #siamstr https://youtu.be/leqEbI9bzKo
https://youtu.be/n2PdGJvUxls สัตว์บก กินได้ = เคี้ยวเอื้อง, มีกีบผ่า อูฐ = เคี้ยวเอื้อง, ไม่มีกีบผ่า ❌ กระจงผ่า = เคี้ยวเอื้อง, ไม่มีกีบผ่า ❌ กระต่าย = เคี้ยวเอื้อง, ไม่มีกีบผ่า ❌ หมู = มีกีบผ่า, ไม่เคี้ยวเอื้อง ❌ สัตว์น้ำ กินได้ = มีครีบ, มีเกล็ด หอย = ไม่มีครีบ, ไม่มีเกล็ด ❌ กุ้ง = ไม่มีครีบ, ไม่มีเกล็ด ❌ ปลาหมึก = ไม่มีครีบ, ไม่มีเกล็ด ❌ ปลาสวาย = มีครีบ, ไม่มีเกล็ด ❌ ปลาดุก = มีครีบ, ไม่มีเกล็ด ❌ สัตว์ปีก เลวีนิติ 11 : 13-18 (ขี้เกียจเขียนเยอะจัด) แมลง กินได้ = พวกที่คลานสี่ขา และใช้ขากระโดด ผึ้ง = ไม่ใช้ขากระโดด ❌ ปล. Product ของผึ้งถึงแม้ว่าผึ้งจะถูกระบุว่ามีมลทิน เช่น น้ำผึ้ง อันนี้กินได้ (ไม่รู้ว่าทำไม ต้องไปถามยิวเอา เดาว่าอาจเป็นเพราะว่ามาจากน้ำหวานจากเกสร ไม่ใช่จากผึ้งโดยตรง) และเรื่องจุกจิกเกี่ยวกับระเบียบการกินอีกมากมาย เช่น ไม่กินเลือด (เนื้อพร้อมเลือด), ไม่ต้มเนื้อในน้ำนม (ไม่กินเนื้อพร้อมกับน้ำนม) ฯลฯ ในคลิปอาจารย์อธิบายเรื่องวัฒนธรรมการห้ามการกินมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอัตลักษณ์เฉพาะกลุ่ม การเลือกที่จะไม่กินอาหารที่ชนเผาคู่ตรงข้ามนิยมเป็นการทำเพื่อแยกจากกันอย่างชัดเจน #siamstr
วันนี้ไม่ตกครับ :)
εύδαιμονία
## ความหวังกับเหตุผลที่สร้างขึ้น Anon : เมื่อก่อนรู้สึกยังไง? I'm : แสงสว่างล่ะมั้ง เป็นความหวังที่อาจจะเป็นสิ่งพลิกชีวิตได้เลย Anon : แล้วรู้สึกยังไงเมื่อความหวังพังทะลายลงต่อหน้าต่อตา? I'm : ก็..ทบทวนตัวเอง มองโลกบนความเป็นจริง อยู่กับเหตุผล มองหาความเป็นเหตุเป็นผล แต่ในมุมหนึ่งก็ยังต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าความหวังเป็นแรงกระตุ้น แต่มันก็ไม่ใช่ความหวังที่ไร้เหตุผลเสียทีเดียว Anon : ไม่ไร้เหตุผลยังไง? I'm : มนุษย์ เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต ความทุกข์ที่ไม่ตายทำให้มนุษย์เติบโต การผ่านมันมาได้ มนุษย์จะไม่ใช่คนคนเดิมอีกต่อไป ไม่ได้ตอบคำถามใช่มั้ย? Anon : ก็นะ.. I'm : ในช่วงแรก ๆ ที่เรารู้จักกับมัน เราได้ให้ความหวังไปกับการมองมันว่าเป็นสิ่งที่จะพลิกชีวิตให้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากขอทานให้เป็นเจ้าสัว ในตอนนี้พอนึกย้อนกลับไปมันก็ฟังดูเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อสิ้นดี ใช่ เมื่อเราได้เห็นความเป็นจริงของโลกมากขึ้น ที่ผมบอกว่ามันไม่ใช่ความหวังที่ไร้เหตุผล จริง ๆ แล้วผมแค่สร้างเหตุผลใหม่ให้กับตัวเองในการมีความหวังเพื่อที่จะถือครองสิ่ง ๆ นี้ต่อไปได้ แม้ว่าจะต้องทุกข์ทนในทุก ๆ ครั้งที่ได้เห็นมูลค่าของมันติดลบอยู่อย่างนั้นเป็นแรมปีจากที่มันเคยกำไรแล้วผมไม่ได้ขาย ในสมองอันขาวโพลนของผม เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมา อันที่จริงแล้วออกจะเป็นข้ออ้างมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ถูกใช้เพื่อคอยย้ำเตือนตัวเองเพื่อให้มีหลักยึด ตัวอย่างก็เช่น ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่มีจำกัดอย่างแท้จริง และเมื่อเทียบกับอีกสิ่งที่ไร้การจำกัด ไม่นานมันก็คงจะกลับมาเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ ก็แค่ต้องรอเวลา เวลาที่มันจะกลับมากำไรเหมือนเดิมอีกครั้ง จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นความพยายามในการให้เหตุผลที่จะมีความหวัง มันก็ไม่ได้หลุดพ้นไปจากความหวังอันเพ้อเจ้อที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านั้นมากเท่าไรนัก และมันก็แอบฟังดูตลกหน่อย ๆ คุณลองนึกภาพดูสิ คุณที่กำลังมองเห็นภาพของบิตคอยน์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการต่อต้านเงินตราที่สร้างขึ้นจากอำนาจของรัฐ สิ่งที่มีอย่างจำกัดอย่างแท้จริงกับสิ่งที่ไร้การจำกัด พยายามย้ำเตือนตัวเองถึงแนวคิดนี้ แต่กลับยังคงต้องการผลของกำไรเมื่อแปลงมันกลับมาเป็นเงินของรัฐที่คุณเกลียด โดยเสแสร้งทำเป็นหลอกตัวเองว่า นั่นแหละ คุณกำลังมั่งคั่งขึ้นเพราะว่าตัวเลขเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นกำลังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบิตคอยน์ที่คุณอดออมไว้ แต่ด้วยการเอามันไปเทียบกับเงินของรัฐ Anon : โดยสรุปก็คือ? I'm : โดยสรุปก็คือ มันเหมือนจะมีความเป็นเหตุเป็นผล แต่มันก็มีความย้อนแย้งในตัวของมันเอง มันไม่ได้สมบูรณ์แบบเพราะสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่เคยสมบูรณ์แบบแม้ว่าเราจะเรียกมันว่าความมีเหตุผล เราทำได้แค่สร้างเหตุผลใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ เมื่อเรายังต้องการจะมีความหวังต่อสิ่ง ๆ หนึ่ง Anon : แล้วมันยังไงต่อ? หมายถึงว่า แล้วทุกวันนี้รู้สึกยังไงกับมัน? ก็ในเมื่อมันกลับมากำไรแล้ว ทำไมไม่ขายมันไป ก่อนหน้านี้คุณยังตั้งความหวังไว้ว่ามันจะกลับมากำไร ในตอนนี้มันก็กำไรแล้วนิ I'm : ก็อย่างที่บอกไป มันคงจะเป็นความย้อนแย้งในตัวของผมเอง รู้มั้ย.. ผมพึ่งจะนึกอะไรออกในตอนนี้เลย Anon : ... I'm : ผมพึ่งจะสร้างเหตุผลใหม่ให้กับตัวเองเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความหวังที่จะถือครองมันต่อไปได้โดยที่ไม่ขาย แม้ว่ามันจะกำไรมากแค่ไหนแล้วก็ตาม Anon : ยังไง? I'm : ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์หรือเส้นกราฟที่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของบิตคอยน์ที่เก็บออม ว่ามันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับเงินของรัฐที่คุณและผมต่างก็รู้สึกเกลียด มันเลยไม่ใช่เหตุผลที่ดีมากพอที่จะใช้บอกกับตัวว่าให้ขายมันไปซะ I'm : ผมก็แค่ต้องบอกตัวเองว่าตัวเลขเปอร์เซ็นต์ที่แสดงให้เห็นว่าเพิ่มขึ้น มันไม่ใช่ตัวเลขของความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นจริง ผมแค่ต้องไม่ลืมว่า ถ้าหากว่าบิตคอยน์ที่ผมมีอยู่นี้ที่ไม่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเลย ตัวเลขเปอร์เซ็นต์พวกนั้นที่เพิ่มขึ้นมา มันก็เป็นเพียงสิ่งย้ำเตือนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา บิตคอยน์ได้ปกป้องพลังงานและเวลาที่ผมเอามาเก็บรักษาไว้จากการเสื่อมค่าได้แท้จริงแค่ไหน ถ้าหากว่ามันเท่าเดิมก็เสมอตัวไม่ได้ไม่เสียอะไรไป บิตคอยน์ผมก็มีเท่าเดิม แต่ในวันที่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ของการเปรียบเทียบมันเพิ่มขึ้นมาให้เห็นเมื่อไร นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่าถ้าผมไม่ได้มีบิตคอยน์อย่างที่มีในวันนี้ พลังงานและเวลาที่ผมเอาไปเก็บไว้ในเงินของรัฐ "มันจะเสื่อมค่าไป ได้มากแค่ไหน" #Siamstr #SiamstrOG
μέμνησο θανάτου จงระลึกถึงความตาย