#ประวัติย่อของการเปลี่ยนผ่านสู่ “เงินตราพลังงาน” ตลอดสองปีที่ผ่านมา ผมมีความคิดหนึ่งก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ: พลังงาน — ไม่ใช่บิตคอยน์ ไม่ใช่เงินหยวน และไม่ใช่การกลับไปสู่ทองคำ — อาจเป็น “หน่วยมูลค่าหลักของโลก” ตัวถัดไป หรือจริง ๆ แล้ว มันอาจไม่ใช่ “ตัวถัดไป” ด้วยซ้ำ.. แต่เป็น เพียงสิ่งเดียวที่เป็นเงินตราอย่างแท้จริง — เพราะมันมี “ความหมาย” อยู่จริง ลองนึกถึงสเตเบิลคอยน์ที่มีหน่วยค้ำประกันเป็นกิโลวัตต์-ชั่วโมง สิ่งที่ผมเรียกเล่น ๆ ว่า “wattcoin” จุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้: ไอเดียที่ถูกลืมของเฮนรี่ ฟอร์ด ในปี 1921 เฮนรี่ ฟอร์ด เคยเสนอให้สร้าง “เงินตราพลังงาน” เขาต้องการแทนที่ระบบ Gold Standard ด้วยระบบที่ใช้ “หน่วยไฟฟ้า” (kWh) เป็นตัวกำหนดมูลค่า ฟอร์ดเชื่อว่า หากเงินตราผูกกับกำลังการผลิตไฟฟ้าของโลก — ที่เขาเรียกว่า “โรงงานพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ” สังคมจะหลุดพ้นจากการควบคุมของชนชั้นการเงิน และหยุดสงครามที่เกิดจากความโลภได้ แนวคิดนี้เคยตีพิมพ์ใน New York Tribune วันที่ 4 ธันวาคม 1921 ในหัวข้อ: “Ford to Replace Gold with Energy Currency and Stop Wars.” หนึ่งศตวรรษต่อมา ไอเดียนี้ก็ไม่ได้ฟังดูเพ้อฝันอีกต่อไป สะท้อนสู่ยุคปัจจุบัน✨ ไม่นานมานี้ Elon Musk กล่าวไว้ว่า: “Bitcoin ขึ้นอยู่กับพลังงาน — รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินปลอมได้ แต่พวกเขาปลอมพลังงานไม่ได้” นี่คือเหตุผลที่โต้แย้งแทบไม่ได้ เพราะพลังงานคือ “proof-of-work” ขั้นสุดท้ายในจักรวาล สิ่งเดียวที่ไม่มีใครปลอมแปลงหรือทำให้เสื่อมค่าลงได้ และหากมองลึกลงไป จะเห็นว่าระบบเงินตราที่อิงพลังงานเริ่มโผล่มาตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว พื้นฐานของโทเคนพลังงานรุ่นแรก ปี 2014 เรามี SolarCoin ($SLR) คริปโตตัวแรกที่ “ค้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์” 1 SLR แทน 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมงของพลังงานแสงอาทิตย์ และในปี 2018 มีการโทเคไนซ์พลังงานไปกว่า 15 เทรา วัตต์-ชั่วโมง ใน 83 ประเทศ จากระบบมากกว่า 7,000 จุดติดตั้ง จากนั้นปี 2017 — ยุค ICO ที่วุ่นวาย แต่ก็มีโปรเจกต์จริงจังเกิดขึ้น เช่น • PowerLedger (POWR): ระบบเทรดพลังงานแบบ P2P • WePower (WPR): โทเคไนซ์พลังงานหมุนเวียน 1 kWh ต่อ 1 โทเคน • Grid+ (GRID): โครงการจาก Consensys ที่เปิดทางให้เข้าถึงตลาดพลังงานแบบ wholesale แม้พื้นที่นี้ยังไม่สุกงอม แต่ “แนวคิดพื้นฐาน” มาถูกทางแล้ว — การเปลี่ยนพลังงานให้กลายเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องที่เทรดได้จริง การเกิดขึ้นและล่มสลายของโปรโตไทป์รุ่นแรก ปี 2021 BitRiver เปิดตัวโทเคน $BTR ผูกไว้กับ “ต้นทุนไฟฟ้าต่อหนึ่งวัตต์ต่อปี” โดยมี Data center ขนาด 100 MW เป็นหลักประกันในรัสเซีย แม้โปรเจกต์จะล้มเหลว แต่ ไอเดียยังอยู่ ปี 2022 นักวิจัยจาก Lawrence Livermore National Laboratory เสนอแนวคิด E-Stablecoin คริปโตที่ค้ำ 1:1 ด้วย kWh จุดพลิกเกมคือ — มันอาจ “ส่งพลังงาน” แบบไร้สายผ่านบล็อกเชนได้ในอนาคต และในเดือนตุลาคม 2025 สถาบันดังกล่าวกลับมาศึกษาโครงการนี้อีกครั้ง พร้อมย้ำศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีพลังงานหนุนหลัง อวกาศ, พลังงาน และการกระโดดครั้งใหม่ เพียงเดือนก่อน Elon Musk ถูกกล่าวว่าพูดถึงโครงการลับ “Solaris” กับประธานาธิบดี Donald Trump Solaris คือเครือข่ายดาวเทียม 900 ดวง ที่ออกแบบมาเพื่อ “ขุดเงินตราพลังงานจากพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศ” โดยตรง ถ้า SolarCoin คือก้าวแรกแบบสัญลักษณ์ Solaris อาจกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานจริงของ “มาตรฐานพลังงาน” เงินตราที่ไม่ได้ผูกกับความเชื่อใจ แต่ผูกกับ กฎฟิสิกส์ อนาคตที่วัดด้วยหน่วยวัตต์ Musk เคยคาดการณ์ว่า ในอนาคตเงินอาจ “หายไป” ถูกแทนด้วยตัวชี้วัดมูลค่าล้วน ๆ เช่น วัตต์ หรือจูล และบางที นั่นอาจเป็นทิศทางที่มนุษย์กำลังมุ่งหน้าไปจริง ๆ โลกที่การบัญชี การค้า และความมั่งคั่ง ล้วนถูกกำหนดด้วย พลังงานที่ใช้งานได้จริง ในภาพนี้ “wattcoin” ไม่ได้ฟังดูเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ แต่มันดูเหมือน จุดหมายสุดท้ายของบล็อกเชนและระบบเศรษฐกิจมนุษย์ จุดบรรจบระหว่าง การเงิน และ ฟิสิกส์ อย่างแท้จริง source https://x.com/green_but_red/status/1988260811765100796 #bitcoin #energy #siamstr #nostr