spacestr

🔔 This profile hasn't been claimed yet. If this is your Nostr profile, you can claim it.

Edit
minseo
Member since: 2025-09-03
minseo
minseo 6d

บล็อกสรุปงาน Mobile Native Thailand Meetup # 3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา #siamstr https://www.mikkipastel.com/mobile-native-thailand-meetup-3/

# #siamstr
minseo
minseo 8d

หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยิน และใช้ LLM กันอยู่แล้ว และเอาระบบ automation มาใช้กับ mobile native ได้ยังไง? สรุปจาก session “Agents in the Loop: Practical Automation for Mobile” โดยคุณ Pisit Jaiton (Full Stack Developer, Arise by Infinitas) จากงาน Mobile Native Thailand Meetup # 3 . แน่นอนทุกที่น่าจะมี CI/CD อยู่แล้ว และเอา N8N มาใช้ เพื่อสร้าง agent ขึ้นมา ซึ่ง agent มันก็คือ LLM + tool มีหน้าที่ตัดสินใจ เลือกใช้เครื่องมือที่ถูกต้องเพื่อแก้ปัญหาให้สำเร็จ หาเหตุผล ช่วยแก้ปัญหาของงานนั้น ๆ เช่น OpenAI gen builder Workflow เป็นสิ่งที่ทำให้ LLM ไปถูกทิศถูกทาง เริ่มจาก Trigger อาจจะมาจาก Webhook, Slack → Orchestration ประมวลผล ตัดสินใจ mapping หรือจัดการ transform ข้อมูล → Integrate กับตัวอื่น ๆ อย่าง Jira, Google, Figma → Reliability ดู execute ย้อนหลังได้ ดังนั้น N8N = agent + workflow ทำไมต้องใช้ Automation บน Native? - ข้อมูลใน CI เยอะมาก และมี insight อยู่ในนั้นเยอะมากเช่นกัน - สร้าง workflow + CI APIs ได้ง่ายมาก ไม่ต้องพึ่ง infra อยากทำก็ทำใช้เองได้ deploy บนเครื่องตัวเองได้เลย - review หน้า UI มี cost เยอะ ต้องใช้ QA review - เอาคนเข้ามาเพื่อไม่ให้งานขึ้นตรงกับ AI ทั้งหมด . ใน session มี 3 usecase ด้วยกัน 💡 Use Case 1: การวิเคราะห์ Build Failure ใน CI/CD มี CI/CD อยู่แล้ว สำหรับการเปิด MR/PR จะเอา agent มาจับให้มี insight มากขึ้น ตัว CI/CD ในที่นี้ใช้ Gitlab CI สามารถใช้เครื่องเราเป็น Runner ได้ โดยการโหลด Docker แล้ว Runner เป็นคนเรียก Docker มาทำงาน เราสร้าง Runner ขึ้นมา และอย่าลืมตั้ง tag ให้ตรงกับตัว Runner นะ การทำงานของ flow นี้ คือ ให้ N8N ดึง log Log จาก Gitlab CI หรือ CI/CD อื่น ๆ แล้วส่งก้อน data นี้ไปให้ LLM อ่านและสรุปออกมา โดยไม่ต้องทำ Data Cleansing พอสรุปผล Agent สั่ง comment back ไปยัง Commit หรือ MR นั้น ๆ และใช้ Gemini เพราะฟรี และสามารถบอก Root Cause ได้ แต่ก็ต้องเลือก model ที่เหมาะสมกับการใช้งานด้วย เช่น ไม่ใช้ Gemini 2.5 Flash ซึ่งอาจให้ผลลัพธ์ที่ฟุ้งเกินไป 💡 Use Case 2: ทำ UI Snapshot เทียบกับ Figma เพื่อ review UI ถ้า UI ที่ทำมาไม่ตรงกับ Figma ทำ snapshot ดูว่า UI ผ่านไหม ซึ่งดูจาก business model หาไฟล์ Figma แล้วดูว่าตรงไหน ฝั่ง Android หยิบ Paparazzi มาใช้ในการเขียน snapshot test จากนั้น prompt บอก system และ output ที่ต้องการ เจ้า agent จะเทียบ 2 รูป คือจากแอพที่ได้จาก Paparazzi และจาก Figma มาเทียบกัน ตัว model เลือก model GPT-4o หรือ GPT-4o mini แล้วก็อาจจะเพิ่ม pixel perfect มาด้วย 💡 Use Case 3: Code Review Agent สามารถดึงไฟล์ diff จาก Gitlab MR มารีวิวหา Code Smell หรือความไม่ถูกต้องของ Unit Test ถ้า Agent พบปัญหา จะวนลูปให้ Agent แก้ไขโค้ด และคอมเมนต์กลับไปใน MR ว่าควรแก้ไขไฟล์ไหนบ้างนะ แล้วเดฟที่เป็นคนเนี่ย เป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินใจว่า สิ่งที่ AI ทำมาให้ ถูกต้องหรือไม่ และ comment ให้เปิด MR . ⚠️ Security - Guardrails & Privacy - Data Handlng: ปิด confidental data - Action Safety - Access & Secrets - Audit & Monitoring: ระวังไม่ให้ข้อมูลหลุดออกมา 📌 How it improve your CI เราจะ improve อะไรบ้าง? เห็น data และ insight มากขึ้น รวมงาน quality ของงานเพิ่มขึ้น ในส่วน code review ที่ให้ senior ทำ อาจจะลองให้ LLM มาช่วยทำได้ อีกทั้งเริ่มต้นง่าย ทำได้เลยตอนนี้ #siamstr

# #siamstr
minseo
minseo 10d

เมื่อฝั่ง iOS มีการอัพเดตครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา แล้ว iOS Developer ต้องทำอะไร และปรับตัวยังไงบ้าง กับ session “Surviving the Shift: Preparing Your App for iOS 2026” จากงาน Mobile Native Thailand Meetup #3 จากคุณ Ritthikiat Jindajak, Full Stack Developer จากทาง Arise by Infinitas และคุณ Saran Jantara-amornporn, Mobile Development Director จากทาง Infinitas by Krungthai กัน แล้ว Overview การทำ iOS application ในปีหน้ามี 4 หัวข้อหลัก คือ 1️⃣ Age Rating System: เป็นการกำหนดอายุผู้ใช้แอพของเรา จากเดิมจะมีการจัดอายุจากเดิม 4 ลำดับ คือ 4+, 9+, 12+, 17+ เป็น 5 ลำดับ คือ 4+, 9+, 13+, 16+ และ 18+ อีกทั้งต้องไปตอบแบบสอบถามใหม่ ทำให้ข้อมูลแอพของเราโปร่งใสมากขึ้น โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่ต้องมีผู้ปกครองดูแลอยู่ ซึ่งต้องตอบภายใน 31 มกราคม 2026 (คือเดือนแรกของปีหน้านี่แหละ) คำถามใหม่มีเรื่อง - In-app Controls: การควบคุมในแอพ เช่น มี UGC ไหม, ระบบแชท, ซื้อขายในแอพ, social feature - Capabilities: ความสามารถ เกี่ยวกับพวก permission และการเก็บ sensitive data - Medical or Wellness Topics: เกี่ยวกับสุขภาพ - Violent themes: เนื้อหาที่มีความรุนแรงใด ๆ ถ้าไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้น? เราจะไม่สามารถ submit app update ไม่ได้ และอาจจะถูก remove แอพจาก App Store ในที่สุด . 2️⃣ CocoaPods → Read-Only Mode: สิ่งที่ใช้กันมานานนม (นี่ก็ได้ยินมานาน) จะเข้าสู่ Read-only Mode อย่างเป็นทางการ แต่ไม่ต้องตกใจไป เขามี timeline ให้เราได้เตรียมตัวกัน - มกราคม 2025: แจ้งเตือนครั้งแรกให้เตรียมตัว Migration กัน - กันยายน – ตุลาคม 2026: แจ้งเตือนครั้งที่สอง - 1 - 7 พฤศจิกายน 2026: ทดสอบ Read-only Mode - 2 ธันวาคม 2026: เข้าสู่ Read-only Mode อย่างเป็นทางการและถาวร ผลกระทบ คือ project ที่มีอยู่เดิมยังใช้ได้ แต่ทำให้ library ขึ้น version ใหม่ไม่ได้ และที่สำคัญเรื่อง security update จะไม่ได้รับการอัพเดตเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป ถือเป็นความเสี่ยงใหญ่เลย อีกทั้งตัว iOS version ใหม่อาจจะมีปัญหากับ dependency เก่าด้วย ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำ คือ check library หรือ dependency ที่ต้องใช้ อาจจะเปลี่ยนจาก CocoaPods เป็น SPM หรือ Swift Package Manager ซึ่งเป็น official solution จากทาง Apple อาจจะ check กับ Github ของตัวนั้น ๆ ที่ใช้ หรือผ่าน swiftpackageindex.com ก็ได้นะ . 3️⃣ Xcode 26: Apple มักจะบังคับให้ update ตัว Xcode เวอร์ชันใหม่ในการ Build แอปขึ้น Store ในช่วงเดือนเมษายน ของทุกปี โดยในเดือนเมษายน 2026 แอพจะต้องใช้ Xcode 26 (iOs 26, iPadOS 26 SDK, 26 SDK) อีกเรื่องที่สำคัญ คือ migrate ตัว `UIApplication` เป็น `UIScene` โดยสามารถ check info.plist ตรง Scene Configuration ได้ แล้ว Xcode 26 มีอะไรมาใหม่? เขามาในแนวคิด Smaller, Faster, Better - Performance Optimization: ขนาด download ลดลง 24% โดยตัด simulator และ Game Kit ออก, เปิด workspace เร็วขึ้น 40%, improve การพิมพ์ให้ดู smooth ขึ้นถึง 50% - เพิ่ม build system ตัวใหม่ คือ Swift Compilation Caching จากที่ต้อง compile ใหม่ทุกครั้ง ทำให้ทำได้เร็วขึ้น - Swift Explicit Module: เปิดให้เป็น default แล้ว ถ้าไม่เอาก็ไปปิดเองได้ มันจะ compile เพื่อมาเดา dependency แล้วมา define ว่าใช้อะไรบ้าง ทำให้เร็วขึ้น - Enhanced Editor Tabs: มี pin tab ไฟล์ที่เราต้องการ focus ได้ด้วยนะ - Advance Search: คือเราสามารถหาแบบ multiple word search ได้ โดยเรียงจากความเกี่ยวข้อง ทำให้ค้นหาอะไรบางอย่างในโปรเจกต์ง่ายขึ้น - Voice Control for Swift: พิมพ์โค้ดแล้วมันเมื่อย เรามาเขียนโค้ดด้วยคำสั่งเสียงกันดีกว่า อาจจะทำงานได้เร็วขึ้นนะ (เขาเปิด demo จากงาน WWDC มาประกอบ) - พวก AI ต่าง ๆ คือ เขามี model ให้ใช้ใน Xcode คือ ChatGPT แล้วก็มี Claude และเปลี่ยน model ได้จาก Model Provider และมันอยู่ใน workspace ไม่ต้องเปิดหน้าต่างแยก แล้วเขาสามารถเพิ่ม file context ได้ ช่วยแก้ issur รวมถึงทำ document ได้ด้วย ซึ่ง avaiable บน macOS 26 นะทุกคน ไป check OS กันก่อนลุยนะ - พวก performance จะมี SwiftUI Instrument ช่วย analyse detail แล้วก็ Power Profiler instrument ดูเรื่อง CPU, GPU, display, network แล้วก็ Processcor Trace instrument ดูเรื่อง CPU เหมือนกัน - Localization Enhancement: เขาแนะนำให้ย้ายมาใช้ String Catalogs และเพิ่มความสามารถในการ Generate Comment ให้กับ Key String ได้ - Testing Enhancements: UI automate ปกติ record ได้ แต่ใน Xcode 26 เพิ่มให้ customize ได้ง่ายขึ้น และมี suggestion ขึ้นมา - Icon Composer: tool ตัวใหม่สาย design ตัว Liquid Glass มีการ clear และ blend ไปกับ content แยก preview แต่ละ mode ได้ เช่น light mode, dark mode, print mode . 4️⃣ iOS 26 & Liquid Glass UI: การ redesign ครั้งใหญ่ตั้งแต่ iOS 7 มีการเปลี่ยน version ตามเลขปี เช่น จาก iOS 18 (2024) เป็น iOS 26 ให้เข้าใจง่ายว่าเป็นของปีไหน ซึ่งตัวเลขนี้จะสอดคล้องกันทุก platform เริ่มจาก 26 เท่ากัน และแน่นอนว่านอกจากเรื่องเลข version เรื่อง Liquid Glass UI ก็เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าแอพใครยังไม่พร้อมในตอนนี้ สามารถใส่ `UIDesignRequiresCompatibility` ใน plist เป็น true แต่มันจะบังคับตรง navigation bar และ surface สำหรับตัว Liquid Glass UI มี 2 variant ให้ใช้ คือ Regular (blend ไปกับ content) และ Clear (แบบใส) ใช้เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งห้ามเอามาผสมกัน . 📌 Key Takeaway เราต้องทำอะไรบ้างนะ - Age Rating Updates: มกราคม 2026 - Migrate UIAppDelegate to UIScene Delegate prepare to Xcode26 SDK26: เมษายน 2026 - สาย financial หรือลูกค้าใหญ่ ๆ ถ้าทิ้งเรื่องนี้ไว้มีความเสี่ยงนะ - Migrate Cocoapods to Swift Package Manager: ธันวาคม 2026 ช่วงแรกอาจจะเจ็บ แต่ได้ stability กับ safety ระยะยาว The time is running out. Start preparing now. #siamstr Slide ทุก session: https://www.facebook.com/share/p/1H1MoWvwns/ live ย้อนหลัง: https://www.youtube.com/watch?v=5tBi0wwFQLM

#3 #siamstr
minseo
minseo 15d

สรุปภาพรวมของ AI ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา จาก SPECIAL SESSION BY AWS THAILAND | NTT DATA โดยคุณฉัตรชัย กำลังเดช จากงาน Bitkub Submit 2025 และมี usecase นึงของทาง Amazon โหดมาก! ปีที่แล้วคนพูดถึง AGI ว่ามันฉลาดเท่ามนุษย์ ไทยได้ประโยชน์ในการนำ AI เอามาใช้งาน เช่น Agentic AI ทำให้เพิ่ม productivity และลด cost ได้ AI จะคุยกับมนุษย์ได้ และอนาคตจะมี physical AI ช่วยงานมนุษย์ เช่น คัดกรองสิ่งของต่าง ๆ ช่วยยกของ Agentic AI Components: - Tool: เปรียบเหมือนแขนขา เช่น Calendar, Calculator, Code Interpreter, Order Processing, Search - Memory: ความจำ มี short-term memory ระยะสั้น กับ long-term memory ระยะยาว - Planning: สามารถเรียงลำดับความคิดได้ ไม่ว่าจะเป็น Reflection, Self-Critics, Chain of Thoughts, Subgoal Decomposition - Action: เหมือนมีกล้าม สามารถทำบางอย่างแทนคนได้ เชื่อมต่อกับ Tool . Amazon's AI-powered experiences: AI ช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น Amazon เอา AI มาช่วยลูกค้าค้นหาสินค้า และบางที AI รู้จักตัวเรา มากกว่าตัวเรารู้จักตัวเอง หรือเอาไป gen video ได้ . ในฝั่งเดฟ ใช้ AI ในการช่วย upgrade จาก Java 8 ไป Java 17 สำหรับ product 1000+ แอพ ถ้าทำเองทั้งหมดอาจจะใช้เวลา 4,500 ปี แต่พอมี AI มาช่วย ทำให้จบภายใน 6 เดือน และเปลี่ยน hardware ที่ใหม่มากขึ้น ลดขนาดเครื่อง และประหยัดไป 260 ล้านดอล . Grab merchant บริการฝั่งร้านค้า มีลูกค้า 44 ล้านต่อเดือน ช่วยร้านค้าทำโปรโมชั่นแบบไหนเพื่อ boost ยอดขายของร้าน แก้ปัญหาร้านได้เพิ่มขึ้น 5.7% เปลี่ยน negative feedback ให้ดีขึ้น 25% จากที่ใช้คน 100% เหลือใช้คนเพียง 88% เพราะ transfer ให้ AI ทำ . คนใช้ AI ในเชิงปริมาณ มีธุรกิจ 150,000 ในไทยใช้ AI คิดเป็น 1 ธุรกิจในทุก 3 นาที การนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้น 32% จาก 24% ในปีก่อนหน้า และเพิ่ม productivity ได้ 81% อีกทั้งมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น 67% ส่วนในเชิงคุณภาพเอามาวางแผนการเงิน scale ธุรกิจ และ service . 3 สิ่งที่เป็น challenge สำหรับภาคธุรกิจ คือ skill, เงินทุน และกฏหมาย โดยเกิด skill gap มีความรู้ไม่เพียงพอในการใช้งาน AI, POC cost ยังไม่เยอะ, รวมถึงเรื่องกฏหมายหลาย ๆ องค์กรกับกฏการใช้งาน AI . ทาง AWS มีการ train เรื่อง AI เพื่อ upskill และ reskill คนไทยไปแล้ว 800 กว่าคน และมี tech alignment skill digital workflow และ skill ให้พร้อมอยู่ตลอด Key Takeaway: ปัญหาที่เราจะแก้คืออะไร แล้ว data ของเราคืออะไร และคำนึงถึงความปลอดภัย governance และ mindset ในการทำ transformation สุดท้ายเขามี free online course และ AWS free tier ให้ใช้เบื้องต้น มีคอร์สฟรีออนไลน์มากกว่า 600 กว่าคอร์ส และ guide ในการใช้ Agentic AI - คอร์สฟรีออนไลน์มากกว่า 600 กว่าคอร์ส: https://builder.aws.com/start?trk=eeac293c-bbbd-40b8-a1dc-c49bb0499de7 - guide ในการใช้ Agentic AI: https://d1.awsstatic.com/onedam/marketing-channels/website/aws/en_US/whitepapers/approved/executive-insights/an-executives-guide-to-agentic-ai-ebook-v3-final.pdf #siamstr

#siamstr
minseo
minseo 19d

THE INVESTMENT WARS สมรภูมิการลงทุน (CRYPTO VS STOCK) #BITKUBSUMMIT2025 สรุปสั้นมาก ๆ คือ ลงทุนยังไงให้เอาชนะเงินเฟ้อ - ลุงโฉลกเคยบอกว่า Bitcoin อาจจะขึ้นเป็น 1 ล้านดอล - เงินเฟ้อ ถือเงินสดไม่คุ้ม เพราะเงินด้อยค่าทุกสกุล - Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่เอาชนะเงินเฟ้อ และความเฟ้อได้ เพราะมี supply 21 ล้าน Bitcoin - หุ้นไทย เราจะได้เงินปันผลดี ถ้าเราเลือกถูกตัว ซึ่งเราต้องหาอะไรพวกนี้ให้เจอก่อน - ถ้าถือเงินสด พันธบัตร ตราสารหนี้ หรือแม้แต่ทอง อาจจะพ่ายแพ้เงินเฟ้อ ถ้าลงคริปโต หุ้นต่างประเทศ จะรอดได้ - แยกบัญชีลงทุน และบัญชีเล่น ออกจากกัน - ความมั่นคงด้านการลงทุน และเสรีภาพทางการเงิน ควรมีความมั่นคงก่อนมีเสรีภาพทางการเงิน อยู่ที่เราเลือกว่าจะเป็นคนแบบไหน เช่น คนเอเชียเน้นสร้างความมั่นคง เก็บเงินไปเรื่อย ๆ จนแก่ แต่ยังไม่ได้ใช้ชีวิต ดังนั้นเราต้องเลือกใช้เงินให้กับตัวเอง เงินหาได้จากไหน บอกว่าเป็นเสรีภาพทางการเงิน - เงินเฟ้อคือการปล้น เราได้แต่จำยอม สินทรัพย์ปลอดภัย ที่เก็บแล้วรักษาค่าได้ เราต้องเข้าใจว่าเงินเฟ้อคืออะไร พิมพ์เงินแล้วไม่มี productivity ให้กับระบบเศรษฐกิจ - wealth สินทรัพย์เสกไม่ได้โดยกฎหมาย เช่น ทองคำ - คือถือ Bitcoin มองว่าทรัพย์สินที่ทุกคนต้องการ เลยต้องแลกเพื่อให้ได้มา เช่น PoW - สินทรัพย์น่าลงทุน: TINA คนไม่มีความเลือกอื่น ดอกเบี้ยตํ่า ต้องวางในทรัพย์สินที่มีความผันผวน และการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ - เป็นไปได้เรียนรู้ที่จะเก็บ Bitcoin ไว้เอง เพื่อให้เราเข้าใจมันมากขึ้น โดยมี seed, wallet, hardware wallet เป็นสินทรัพย์ที่เราเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริง และส่งมอบให้ลูกหลานได้อย่างไร - การลงทุนในระยะยาว เก็บตอนตํ่า รอให้มันขึ้น #siamstr

#bitkubsummit2025 #siamstr
minseo
minseo 19d

สั้น ๆ PANEL DISCUSSION THAILAND GAME CHANGER 2026 เศรษฐกิจ สังคม ประชาชน ประเทศไทย #BITKUBSUMMIT2025 - คุณอภิสิทธิ์: คืนความยุติธรรมให้กับทุกด้าน? (สโลแกนช่วงท้ายยาวเกินจดไม่ทัน) - คุณวราวุธ: สร้างให้คนเก่งไปด้วยกัน ให้มีศักยภาพเข้มแข็ง - ศ.ดร. สุชัชวีร์ : เน้นเรื่องการศึกษาสร้างคน - คุณวิโรจน์: ปราบทุนเทา และแก้ปัญหาโครงสร้าง เนื้อหาโดยรวมเน้นเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข และ AI ทุกท่านมองว่าเอามาช่วยลดโหลดงานภาคราชการได้ #siamstr

#bitkubsummit2025 #siamstr
minseo
minseo 20d

ใช้มือถือ Android เวอร์ชันไหนแล้วยัง "รอด" ในปี 2025? มาดู stat จาก Android Platform/API Version Distribution ที่ซ่อนอยู่ใน Android Studio กัน ที่ต้องไปเปิดตอนสร้างโปรเจกต์ใหม่แล้วถึงจะเจอ 😅 ถ้าคุณอยากสร้างโปรเจกต์ใหม่เป็นแอพ Android แล้วอยากรู้ว่าต้องใส่ minSdkVersion หรือ version แอพ Android ที่ตํ่าสุดที่ใช้แอพเรารองรับได้ เป็นเท่าไหร่ สามารถดูจากหน้าต่างนี้ได้เลย โดย version ตํ่าสุดที่ทาง Android แนะนำคือ Android 7 (API Level 24) ทำให้รองรับผู้ใช้ได้ถึง 98.6% ของผู้ใช้ Android ทั้งหมด ซึ่งข้อมูลตรงนี้ไม่ได้มีให้บนหน้าเว็บโดยตรง เขาแนะนำให้ไปดูที่ Reach and device ใน Google Play Console [1][2] แต่ ๆๆๆๆ ถ้าคุณทำแอพเกี่ยวกับการเงินนั้น ให้อิงตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย [3] และหลาย ๆ แอพธนาคารรองรับ Android 9 (API Level 28) ขึ้นไป รองรับผู้ใช้ได้ถึง 93.4% ของผู้ใช้ Android ทั้งหมด ถือว่าเยอะอยู่นะ (ส่วน iOS จะเป็น iOS 14 ขึ้นไป) ปล. Android API Level คือเลขที่ระบุ version ของ Android Platform API ที่เดฟอย่างเราใช้สร้างแอป ใช้กำหนด minSdkVersion, targetSdkVersion, compileSdkVersion และใช้ในเงื่อนไขการทำงานของฟีเจอร์สำหรับเวอร์ชันใหม่ๆ . 📌 แล้วคนใช้มือถือ Android version ไหนเยอะสุด? แน่นอนว่าก็ต้องเอาข้อมูลจาก จาก Android Platform/API Version Distribution นี้ มาคิดคำนวณกัน ข้อมูลที่เรานำมาเขาอัพเดตล่าสุดวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมาเนอะ แต่มีเว็บ Composables ทำสรุปให้เราแล้ว โดยเขาทำเว็บ Android Distrbution Chart เพื่อเอามาดูข้อมูลตรงนี้ได้ - Android version ล่าสุด คือ Android 15 (API Level 35) คนใช้ 4.4% - Android version ที่ใช้เยอะสุด คือ Android 14 (API Level 34) คนใช้ 27.4% - Android version ที่ใช้น้อยสุด ๆ คือ Android 4.4 (API Level 19) คนใช้ 0.1%, Android 5 (API Level 21) คนใช้ 0.1% ถัาใช้น้อยกว่านี้ไม่แสดง คือข้อมูลต้นทางก็มีแค่นี้แหละ 🤣 📱 ถ้าอยากรู้ว่ามือถือเราใช้ Android version ไหน สามารถไปดูได้ที่ Settings → About phone → Software information → Android version สำหรับ Samsung แหะ ๆ โดยของเราเป็น Android 15 ใหม่ล่าสุดเลย . ⚠️ ความสำคัญต่อความปลอดภัยและการซื้อมือถือ การใช้เวอร์ชัน Android ที่เก่ามากๆ จะมีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากขาดการอัปเดต Patch ล่าสุด ดังนั้น การเลือกซื้อมือถือแบบง่ายๆ คือควรเลือกรุ่นที่รองรับการอัปเดต Android OS ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้คุณมั่นใจในด้านความปลอดภัยและการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ . แล้วเพื่อน ๆ ใช้มือถือ Android version อะไรอยู่ หรือแอพที่เพื่อน ๆ ทำ minSdk เป็นเท่าไหร่ มาแชร์กันได้น้า #siamstr --- ref: - [1] เมื่อก่อนเคยดูตรงนี้ได้ Distribution dashboard: https://developer.android.com/about/dashboards - [2] Reach and device ใน Google Play Console: https://play.google.com/console/about/reachanddevices/ - [3] ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ 4 /2568 เรื่อง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ สำหรับสถาบันการเงิน: https://www.bot.or.th/content/dam/bot/fipcs/documents/FOG/2568/ThaiPDF/25680027.pdf - [4] Android Distribution Chart: https://composables.com/android-distribution-chart - content skooldio เมื่อสามปีก่อน ไปไกลเหมือนกันนะ https://www.facebook.com/share/p/19y9N588xd/

#siamstr
minseo
minseo 22d

คือ งาน #BITKUBSUMMIT2025 เขาเล่นใหญ่มาก แล้วทางนี้เป็น KOL Partner ของงาน แล้วทีมงานแจ้งว่าจะมีการส่ง Invitation Box เพื่อเข้าร่วมงานด้วย ตื่นเต้นสุด ๆ เลยว่าข้างในกล่องคืออะไรน้าา กล่องจะเป็นสีดำประมาณนี้ ข้างในมีสายห้อยคอของงาน มี passport สำหรับกิจกรรม rally แล้วก็ป้าย media เอาไว้ห้อยคอ แล้วก็มีของชิ้นพิเศษ น่าจะเป็น tag ใส่บัตรมั้งนะ งาน Bitkub Submit ปีนี้ เป็นตีม Financial Literacy, Digital Literacy & Longevity เริ่มวันเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ (25 - 26 ตุลาคม) ที่ Exhibition Hall 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลงทะเบียนได้ที่นี่เลย https://www.bitkubsummit.com/register?utm_source=MikkiPastel&utm_medium=kol&utm_campaign=bitkubsummit&utm_content=organic กิจกรรมในงาน นอกจาก session ต่าง ๆ มี golden time ให้เราลุ้นของรางวัลกันแล้ว ยังมีกิจกรรม Bitkub Rally ทำภารกิจสะสมสแตมป์ให้ครบ 30 ดวง มาแลกของรางวัลในงานแล้ว ในวันเสาร์ที่ 25 มีคอนเสิร์ตจาก Season Five และ Bowkylion ด้วยน้า มาจอยกันเยอะ ๆ #siamstr Agenda แต่ละเวที - agenda เวทีหลัก: https://www.facebook.com/share/p/19gyDo6uv8/ - agenda เวที staygold เกี่ยวกับ Longevity: https://www.facebook.com/share/p/1Aj1iMHawm/ - Agenda เวทีเอไอ https://www.facebook.com/share/1NnF2pPZxR/

#BITKUBSUMMIT2025 #siamstr

Welcome to minseo spacestr profile!

About Me

👩‍💻 Full-time Android Developer 🌐 Part-time Content Creator 📖 Sub-Mod, Tripster ⚡ Zentry Ambassador #siamstr

Interests

  • No interests listed.

Videos

Music

My store is coming soon!

Friends