
ถ้ายังจน ทรัพย์สิน อย่าง รถยนต์ ไม่จําเป็น - sats and sound EP37 https://youtu.be/LyGOXLsTjlc รถยนต์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทรัพย์สิน (Property) ที่เพิ่มความสะดวกสบายในชีวิต ด้วยมายาคติในโลกเงินเฟียต การมีรถยนต์ยังแสดงถึงฐานะทางการเงิน อัพเกรดคุณภาพชีวิตได้ด้วย ใครๆก็มีทั้งนั้นเพื่อความสะดวกสบาย การมีรถยนต์หนึ่งคันที่ไม่ได้ใช้สร้างรายได้ มันมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก เหมือนกับคอนเท้นวันนี้ ถ้ายังจน รถยนต์ ยังไม่จําเป็น รถยนต์สามารถเป็นได้ทั้ง "สินทรัพย์" และ "ทรัพย์สิน" ครับ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานและมุมมองที่เรามอง สรุปความแตกต่างแบบง่ายๆ ทรัพย์สิน (Property) คือสิ่งของที่มีมูลค่าและคุณเป็นเจ้าของตามกฎหมาย จะสร้างเงินหรือไม่ก็ได้ สินทรัพย์ (Asset) คือ ซับเซ็ตของทรัพย์สิน (Property) ที่สามารถสร้างประโยชน์หรือรายได้กลับคืนมาให้คุณได้ในอนาคต รถยนต์จะถูกมองว่าเป็นทรัพย์สิน (Property) เมื่อคุณซื้อมาเพื่อใช้งานส่วนตัว ไม่ได้ใช้เพื่อสร้างรายได้ เช่น - รถที่ใช้ขับไปทำงาน - รถที่ใช้เดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว - รถที่ใช้ทำธุระส่วนตัวในชีวิตประจำวัน เพื่อความสะดวกสบาย รถยนต์ในมุมมองนี้จะค่อยๆ มีมูลค่าลดลง (ค่าเสื่อมราคา) ตามกาลเวลาและการใช้งาน ซึ่งอาจกลายเป็นภาระค่าใช้จ่าย ดังนั้นจากหัวข้อ ถ้ารถยนต์ที่เราซื้อมาเป็น Property ยังไม่จําเป็น รถยนต์จะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ (Asset) เมื่อคุณใช้มันเพื่อสร้างเงินให้คุณได้ เช่น - รถยนต์ที่ใช้สำหรับธุรกิจขนส่งสินค้า - รถยนต์ที่ใช้ในธุรกิจรับจ้าง หรือ เซลล์ที่ต้องขับรถไปหาลูกค้า - รถที่ซื้อมาเพื่อให้เช่า ถ้ารถยนต์เป็น Asset มันเป็นสิ่งจําเป็นต่อการหาเงิน แต่ถ้า รถยนต์เป็นเพียง Property ไม่อยากจนเรื้อรัง ฟังคลิปนี้ต่อให้จบ ผมในอดีตที่เคยเป็นมนุษย์เงินเฟียตที่อยากได้รถยนต์ตามที่สังคมเห็นว่า ควรมี และ เหมาะสม เหมือนกับคนอื่นเหมือนกัน แต่พอเรามาดูสุขภาพการเงิน และ ความจําเป็นในการใช้รถ รวมถึงได้เข้าใจระบบการเงินโลก รู้จักบิตคอย ความคิดเกี่ยวกับการมี Property ไม่สร้างเงิน อย่างบ้าน หรือรถก็เปลี่ยนไป ผมได้ทําคลิป มีบ้านเทียบกับมีบิทคอย ทําไมผมคิดว่า มีบิทคอยสําคัญกว่า ลองไปหาดูกันนะครับ ทําไมถึงมองว่า ถ้ายังจน Property อย่างรถยนต์ ไม่จําเป็น คําตอบคือ ค่าใช้จ่ายในการมีรถยนต์ 1 คัน มันเยอะมากนะครับ ยิ่งไม่ได้ใช้เป็น Asset หาเงินด้วยแล้ว ใครจะออกรถคิดดีๆก่อน ยกตัวอย่าง อีโคคาร์ 5แสน บาท ซึ่งเป็นรถยนต์ที่น่าจะมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดแล้ว 1 ค่าดาวน์รถ 25% ค่าผ่อน 5 ปี ดอกเบี้ย5% ตีกลมผ่อนเดือนละ 8000 บาท 2 ค่าน้ำมัน ขับไม่มาก 1500 บาท 3 ค่าประกันรถรายปี, พ.ร.บ., ภาษี ปีละ 12000 บาท ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม - ค่าเช็กระยะ การนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กตามระยะทางที่กำหนด เช่น ทุก 10,000 หรือ 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง และตรวจเช็กสภาพรถโดยรวม - ค่าซ่อมบำรุงตามอายุการใช้งาน เช่น การเปลี่ยนยาง แบตเตอรี่ ผ้าเบรก หรืออะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ที่เสื่อมสภาพตามเวลา อะไหล่มีหลายเกรด รวมค่าช่าง อาจจะหลักพันหรือหลักหมื่น ช่วง 5 ปีแรก ค่าซ่อมค่าบํารุงไม่เยอะเพราะรถยังใหม่ พอผ่านไปสักปีที่ 6 ขึ้นไปจะเริ่มมากขึ้น เพื่อนผมแอร์รถพัง จ่ายไป 2หมื่น จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่าย เยอะมากไม่ว่าจะเป็น fix cost หรือ Variable Costs ค่าดูแลค่าซ่อม นี่ผมยังไม่ได้นับถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ รถชนอีกนะ นี่แหละคือเหตุผลว่า ทําไม ถ้ายังจน รถยนต์ไม่จําเป็น มีคนบอกว่าก็ซื้อรถ EV สิถูกกว่า ประหยัดกว่านํ้ามันเยอะ บอกเลยว่าจริง แต่ รถ EV มีความเสี่ยงๆหลายๆข้อที่บางคนคิดไม่ถึง - ประกันรถจะแพงกว่ารถนํ้ามัน - ถ้าแบตเสีย รถชนแบตพัง บางแบรนด์ ต้องเปลี่ยนแบตรถใหม่ ค่าใช้จ่ายเท่ากับซื้อรถใหม่ทั้งคัน - มีหลายๆแบรนด์ที่ไม่ค่อยมีศูนย์บริการ บางแบรนด์ปิดศูนย์ไปแล้ว ค่าซ่อมรถแพงกว่ารถนํ้ามัน ต่างจังหวัดบางอู่ซ่อมไม่เป็นด้วย ยิ่งแบรนด์ EV จีน มันหลายเจ้ามากด้วย ค่าใช้จ่าย รายเดือนเกี่ยวกับรถยนต์ 1 คัน ในกรณีที่ยกมา 10000 บาท ถ้าเราไม่มีรถ เงินส่วนนี้ นําไปจัดสรรและเก็บออมในบิทคอยได้เพิ่มขึ้นมากนะ เช่น สมมติว่าไม่ย้ายที่อยู่ - ค่าเดินทาง เช่นใน กทม 6000 บาทเลย - ถ้าใน ตจว ส่วนนี้อาจจะเหลือแค่ 1000-2000 บาท แล้วเงินส่วนที่เหลือก็เก็บออมได้อีก 4000 - 8000 บาทเลย เยอะมากนะ รถที่ไม่สร้างเงิน มันคือทรัพย์สินที่เสื่อมค่า รถ=ลด น่าจะเคยได้ยินกันมั้ย บางคนแอบคิด ใครจะเดิน ไม่อยากใช้ขนส่งสาธารณะ จะทํายังไง ผมขอเสนอวิธี ซึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ 1 เลือกเช่าที่อยู่ให้ใกล้ที่ทํางานที่สุด เพื่อให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงเดินทางไปทํางานได้เร็ว โอกาสไปสายน้อยกว่า 2 ใช้มอเตอร์ไซต์ แทนรถยนต์ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ดูแลรักษาน้อยกว่า เหมาะกับขับรถระยะใกล้ๆ ที่ผมไม่พูดถึงรถยนต์มือสอง เพราะ มีแค่ราคาที่ถูกกว่ามือหนึ่ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆเหมือนกัน แต่สิ่งที่หนักกว่าคือค่าซ่อม ถ้าเลือกไม่เป็นอย่าซื้อเดี๋ยวโดนหลอก ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเมื่อมีรถยนต์เปลี่ยนเป็นมอเตอร์ไซต์ 1 ค่านํ้ามัน 100*4=400 บาทต่อเดือน 2 ค่าประกันรถ พรบ ภาษี 600 บาทต่อปี = 50 บาทต่อเดือน 3 ค่าบํารุงดูแลรักษา เฉลี่ย 500 บาทต่อเดือน 4 ย้ายห้องมาอยู่ในเมืองมากขึ้น ค่าเช่าห้องเพิ่มขึ้น 4000 บาท รวมค่าใช้จ่าย 4950 บาท เหลือ 5050 บาท เอาไปจัดการ กินข้าวได้อีกหรือออมในบิทคอย สร้างความมั่งคงทางการเงินที่ยั่งยืนได้อีก การไม่มีรถยนต์ เราจะขาดอะไรไปบ้าง 1 ขาดความสะดวกสบายและคล่องตัว - แน่นอนว่า นั่งรถยนต์แอร์ฉํ่าๆ ฝนตกไม่เปียก ยังไงก็ดีกว่า มอไซต์ หรือนั่งรถเมล์ รถสองแถว อันนี้เรากําลังพูดหัวข้อถ้าจน ทําไมถึงไม่ต้องมีรถยนต์ ความสะดวกสบายก็ต้องแลกมา เราจะประหยัดเงินไว้ออมใเพื่ออนาคต เน้นใช้รถมอเตอร์ไซต์ หรือ ขนส่งมวลชนไปก่อน - คิดจะไปไหนมาไหน การไม่มีรถมันก็ทําให้เราไม่คล่องตัวบ้างในบางครั้ง แต่สิ่งนี้ เราสามารถแก้ได้ด้วยการวางแผนล่วงหน้า และ ถ้าเราใช้ขนส่งมวลชนบ่อยๆ เราก็จะรู้ว่า ต้องไปขึ้นอะไรตรงไหน เดินทางได้ทั้งใน กทม และ ต่างจังหวัด - ขนของไม่สะดวก ข้อนี้อาจจะเป็นปัญหาในบางคน แต่สําหรับผมไม่เพราะ ส่วนใหญ่ผมซื้อออนไลน์มาส่ง หรือ ถ้าไปซื้อเองก็วางแผนว่าซื้อไม่เท่าที่ขนได้ ส่วนการย้ายของ ย้ายบ้าน ข้อนี้ยิ่งไม่ต้องห่วงเลย มันมีบริษัท หรือ คนที่เขารับ ขนของ ย้ายบ้าน ครับ เงินแก้ปัญหาได้ 2 ความปลอดภัย ต้องยอมรับว่าความปลอดภัย ในการขับรถยนต์มีมากกว่ารถมอเตอร์ไซต์ ซึ่งความเสี่ยงนี้ผมลดด้วยการ ขับรถในระยะใกล้ ด้วยการย้ายไปเช่าห้องพักไปอยู่ใกล้ๆที่ทํางาน ทําให้เราขับรถช้าๆได้ไม่ต้องรีบจนเกินไป อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถเร็วหรือ มีจุดบังสายตาทําให้ชนนั่นเอง 3 เดินทางพร้อมครอบครัวหรือเพื่อนลำบาก การเดินทางพร้อมกับครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก จะไม่สะดวกสบายเท่าการมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะอาจต้องต่อรถหลายต่อหรือเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมาก ใครจะต้องไปส่งลูก พาพ่อแม่ อากง อาม่าไปหาหมอ การไม่มีรถยนต์ มันก็ลําบากเหมือนกัน กล่าวโดยสรุป 1 ถ้าเรายังจน การมีรถยนต์ที่เป็น ทรัพย์สิน Property ที่ไม่สร้างรายได้ มันไม่จําเป็น รถ=ลด ค่าใช้จ่ายเยอะมาก 2 เปลี่ยนจากการซื้อรถยนต์เป็น ย้ายที่อยู่มาใกล้ที่ทํางาน หรือ ขับมอเตอร์ไซต์ ระยะใกล้ๆ ลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าที่คิด 3 ถ้าหากรถยนต์เป็นสินทรัพย์ Asset ที่สร้างเงิน สิ่งนั้นเป็นสิ่งจําเป็น 4 การไม่มีรถยนต์มันไม่สะดวกในบางด้าน ไม่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ๆ แต่เราสามารถจัดการและวางแผนได้ 5 เงินที่ประหยัดได้จากการไม่มีรถยนต์ สามารถเอาไปต่อยอด สร้างสินทรัพย์ที่มั่นคง อย่างอื่นได้อีก เช่นออมในบิทคอยเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืนในระยะยาว 6 รถยนต์ พร้อมจริงๆค่อยซื้อก็ได้ ไม่มีคําว่าสาย ถ้าไม่มีเงินพอจะซื้อรถยนต์ได้ 10 คันผมไม่ซื้อ #siamstr #bitcoin #btc #รถยนต์ #สินทรัพย์ #รถ