
เงินในธนาคารถูกอายัดได้แต่ BITCOIN ที่คุณถอนมาเก็บเองไม่มีใครอายัดได้นะ - Sats And Sound Ep.55 https://youtu.be/9f-EykxFK5A คอนเท้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากโพสของอาจารย์พิริยะเมื่อวาน เป็นคำสั้นๆที่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้ได้ดีมาก สปอยนิดหนึ่ง คลิปนี้พูดถึงบิทคอยน้อยมาก แต่จะมาเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จากระบบการเงินที่ "ใช้ตัวกลาง" ผ่าน "ความเชื่อใจ" ของประชาชนให้ฟัง ก่อนหน้านี้ ช่วงต้นเดือนกันยายน 2025 มีเคส เงินในบัญชีติดลบ ถอนไม่ได้ ใครโดนโคตรซวยเลยนะ เพราะช่วงต้นเดือน อาจจะต้องใช้เงินจ่ายค่าเช่า นํ้าไฟ ค่าอื่นๆที่จําเป็น แล้วพอมากลางเดือน ธนาคารก็ยังท็อปฟอร์มอีก มีหลายคน ถูกอายัดบัญชี เนื่องจากมีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับ "บัญชีม้า" อันนี้พูดกันแฟร์ๆ ผมว่ามันมีเคสที่เป็นมิจฉาชีพที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าจริงๆ แต่ยังมีอีกหลายเคสที่ไม่ใช่ เช่น พ่อค้าออนไลน์ หรือ ร้านค้าที่มิจไปกินข้าวแล้วมันก็ใช้บัญชีนี้โอน ซึ่งมีข่าวว่าเริ่มมีหลายๆร้านไม่รับเงินโอนกันแล้ว สิ่งที่ธนาคารทํานั้นเป็นการแก้ปัญหาแบบตัดจบ ถ้ามองในมุมแบงค์ทำแบบนี้ง่ายสําหรับเขาที่สุด แบงค์อาจจะไม่ได้รู้จริงๆว่าใครเป็นมิจฉาชีพบ้าง แค่เกี่ยวข้องกันโดนหมด แต่ในมุมของลูกค้าทั่วไปที่ไม่ใช่มิจฉาชีพ เดือดร้อนมากนะ เพราะตอนนี้คนไทย โอนกันเป็นหลักแล้ว เหตุการณ์นี้ทําให้บางคนเริ่มแห่ไปถอนเงินจากธนาคาร เมื่อคนไปถอดเงินสดออกมาพร้อมกัน บรรลัยสิครับ ธนาคารไม่มีเงินสดเพียงพอกับทุกคน มีการแจ้งประชาชนว่า ให้นัดวันมาถอน เงินสดไม่พอ คุณรู้มั้ยว่า สาเหตุนี้เกิดจากระบบ Fractional Reserve Banking ที่ธนาคารไม่ได้เก็บเงินฝากทั้งหมดไว้เขาสํารองแค่บางส่วน เช่น เราฝากไป 100 บาท แบ้งเก็บไว้ 10 บาท ปล่อยกู้ต่อ 90 บาท เมื่อทําต่อเนื่องๆไปเรื่อย ทําให้เกิดเงินเฟ้อมหาศาล ผมมีคลิป ความจริงของ เงินเฟียตและระบบการเงินโลก ที่บอกความจริงในสิ่งที่แบงค์ทํา ใครยังไม่เข้าใจว่า Fractional Reserve Banking คืออะไรไปดูคลิปนนั้นได้เลย ในสถานการณ์ปกติ ธนาคารจะจัดการสมดุลของการฝาก การถอน ได้ แต่เมื่อเกิดเหตุความวุ่นวายแบบนี้ ธนาคารไม่มีทางรับมือได้เลย เพราะเงินสดที่เขาสำรองพร้อมให้ประชาชนถอนมันน้อยกว่าความเป็นจริงมาก ถ้าสถานการณ์มันบานปลายไปเหมือนกับ บางประเทศที่ระบบการเงินล้มเหลวไปแล้วอย่าง เวเนซุเอล่า เลบานอน เราจะได้เห็นเหตุการณ์ Bank Run อย่างแน่นอนครับ Bank Run พูดง่ายๆคือแบงค์เจ๊งอ่ะ ไม่มีเงินสดให้ประชาชนถอน Fractional Reserve Banking มันเฮีย มีคนรู้เรื่องนี้ดี ย้อนกลับไปหลังวิกฤตการเงินปี 2008 เคยมีกลุ่มคนที่ต้องการ ทํา Full Reserve Banking เหมือนในอดีตยุด Gold standard Full Reserve Banking ก็คือ ธนาคารที่จะมีหน้าที่ดูแลเงินฝากให้ประชาชนเท่านั้น ไม่เอาไปปล่อยกู้ แบงจะได้แค่ค่าธรรมเนียมจากการดูแลเงินฝากของลูกค้า Full Reserve Banking จะไม่มีโอกาสเกิด Bank Run เพราะเงินเรามันอยู่ครบตามเดิมตลอดเวลา แล้วก็เป็นไปตามคาด แผน Full Reserve Banking ล่มครับ เพราะมันมีคนที่อยู่ในโลก tradfi เดิม และได้ประโยชน์จากระบบ Fractional Reserve Banking คัดค้าน เท่าที่หาข้อมูลมาได้ ในโลกนี้มีแค่ที่ ภูฏาน ที่เดียวที่มี Full Reserve Banking Fractional Reserve Banking เป็นสวรรค์ของเศรษฐศาสตร์แบบ "เคนเชียน" ที่ทำให้เกิดการพิมพ์เงิน การกู้มหาศาล เงินเฟ้อ เพื่อทําให้เศรษฐกิจเติบโตและหมุนไปข้างหน้า เช็คได้จริงตามตัวเลข แต่อย่างที่เรารู้กันว่า ในบางประเทศที่ตัวเลข เศรษฐกิจเติบโตมากๆแต่ผู้คนก็ยังลำบาก ไม่มีความสุข ไม่ต่างจากการตกแต่งตัวเลขให้ดูดี แต่ปลอมเปลือกนั้นแหละ Full Reserve Banking จะไม่เกิดการพิมพ์เงิน และการปล่อยกู้จะทําได้ยากมากๆ แน่นอนพวกชนชั้นที่ได้ประโยชน์จากการพิมพ์เงิน ไม่มีทางยอมรับแน่นอน มาแชร์ประสบการณ์ตัวผมเอง เคยเจอสถานการณ์ถอนเงินออกไม่ได้เหมือนกันครับ ย้อนกลับไปเมื่อตอนโควิด เดือนมกราคม ปี 2020 ตัวผมเองได้ ซื้อกองทุนตราสารหนี้ เอาไว้ 1 กอง เขาลงทุนใน - เงินฝาก - ตราสารหนี้ภาครัฐ/สถาบันการเงิน - ตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผมเอาไว้พักเงิน เพราะได้ดอกเบี้ยดีกว่า กองตราสารหนี้ทั่วไป (ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องเงินเฟ้อเลย ) ผมก็พักเงินอยู่ในกองนี้ 2-3 ปีก่อนหน้านี้แล้วไม่มีปัญหาอะไร ผมมั่นใจมากๆว่า กองทุนตราสารหนี้พวกนี้ โคตรมั่นคง โอกาสเจ๊งน้อยมาก 0.0001% พอโควิดมา 0.0001% ดันเกิดขึ้นจริง ความชิบหายมาเยือนทั้งสุขภาพกาย ทั้งตลาดหุ้น ตราสารหนี้ คนเริ่ม panic เก็บเงินสดไว้กับตัว แล้วกองตราสารหนี้พักเงินแบบนี้น่าจะเป็นสิ่งแรกๆที่คนจะขายออก เพราะมันถูกดีไซน์มาให้ใช้ได้รวดเร็วเกือบแทนเงินสดได้เลย คนก็แห่ขายกองทุนที่ผมถือฉํ่า พอผ่านไป 2 เดือน มีนาคม 2020 มีอีเมลล์มาแจ้งจาก บลจ ว่า จะปิดกองทุนนี้ ผมแบบห๊ะ ชิบหาย ตังมีอยู่แสนกว่าบาท ถอนไม่ได้ทําไงดี ในอีเมลล์เขาจะแจ้งว่าจะทยอยคืนเป็นรอบๆ โดยบอกว่าจะทยอยแจ้งให้ทราบภายหลัง คําถามคือ ตอนนี้ลําบาก เงินที่คิดว่าจะไว้ใช้ตอนฉุกเฉินถอนไม่ได้อีก แล้วตอนนั้นผมตกงานอีก โคตรเฮียเลย สรุป กองทุน ใช้เวลา 8 เดือน ในการทยอยคืนเงินต้นจนครบ โอนมา 15 ครั้ง หลังจากนั้นผมบอกตัวเองว่า กองทุนตราสารหนี้ที่เราคิดว่ามันมั่นคงมากๆ ยังเจ๊ง ยังปิดกองได้ 0.0001% ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ช่วงนั้นผมก็ศึกษาเหรียญคริปโต เล่นdefi ที่เจ๊งไปอีกหลักแสนที่เคยเล่าในช่องไปดูกันได้ ถึงชีวิตจะมีมรสุมมากมาย ชิบหายหลายเรื่อง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมขอบคุณตัวเองในวันนั้นก็คือ ผมเริ่มแตะๆ สนใจบิทคอยแล้ว แต่ตอนนั้นรู้แบบพื้นๆ ยังไม่ลงหลุมกระต่าย เมื่อย้อนคิด เหตุการณ์ครั้งนั้น ผมก็ตกผลึกได้ 2 อย่าง 1 เหตุการณ์ไม่คาดฝันมันเกิดขึ้นได้เสมอ อะไรก็ตามที่มีความเสี่ยงแม้แต่ 0.0001% เราก็ต้องระวัง 2 เราถูกสอนมาให้เชื่อใจธนาคาร เอาเงิน เอาความมั่งคั่งไปให้เขาดูแล โดยไม่ตั้งคําถามอะไรเลย นี่แหละคือระบบการเงินเฟียต เงินสร้างทาส อยากให้ทุกคนเข้าไปดูคลิป การโกงและโกหก คือธรรมชาติของมนุษย์ แค่ถือ BTC คุณก็ไม่ต้อง "เชื่อใจ" ใครอีก คลิปนี้จะเป็นการสรุปเลยว่า การเชื่อใจตัวกลางมันมีความเสี่ยงอะไร แล้วในโลกนี้มันมี บิทคอยที่เป็นสินทรัพย์ที่เราไม่ต้องเชื่อใจคนอื่นอยู่นะ เกริ่นมาโคตรยาว เพิ่งเข้าหัวข้อ เงินในธนาคารถูกอายัดได้ แต่ BITCOIN ที่คุณถอนมาเก็บเอง ไม่มีใครอายัดได้นะ รู้ยัง? สิ่งแรกทีผมคิดเลยก็คือ 1 ปัญหาถอนเงินไม่ได้ เกิดจากธนาคารที่ทําตัวเป็น "ตัวกลาง" ร่วมกับการเล่นแร่แปรธาตุอย่าง ระบบ Fractional Reserve Banking ที่เอาเงินไปปล่อยกู้ทํากําไรหมด ทําให้เมื่อเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เงินสดไม่พอให้ทุกคนมาถอนพร้อมๆกัน 2 การอายัดเงินในธนาคารที่แก้ปัญหาเรื่องบัญชีม้า ก็เป็นสิ่งที่ทําให้เราเห็นว่า "ตัวกลาง" อย่างธนาคาร สามารถทําอะไรกับเงินที่เรา "เชื่อใจ" ไปฝากไว้กับเขา มีประชาชนเดือดร้อนเสียหาย เราก็ทําได้แค่รอ 3 ทุกระบบที่มี "มนุษย์" เข้าไปเกี่ยวข้อง เกิดการโกง เกิดความผิดพลาดได้เสมอ 4 ถ้าคุณถือบิทคอย มันจะเป็นสินทรัพย์ที่เป็นของคุณอย่างแท้จริง ไม่มีตัวกลางใดๆ ระบบโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทํางานได้ตลอดเวลา ดังนั้นคุณจะเอาไปใช้ โอนให้ใคร หรือแม้แต่ทําหาย มันก็เป็นสิ่งที่คุณต้องรับผิดชอบเอง 5 ถึงแม้ว่าจะถือบิทคอยแล้ว ถ้าหากเรายังฝากไว้กับ exchange ซึ่งเป็นตัวกลางในการจัดการคอยดูแล บิทคอยของเรา มันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี เช่น FTX ที่ชิบหายกันทั่วหน้า หรือ Zipmex ที่เอาเงินฝากไปปล่อยกู้แล้วบริหารสภาพคล่องไม่ดี ฝั่งบริษัทแม่มีปัญหา ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ สุดท้ายเจ๊ง เหมือน เคสผมที่ไปลงในกองทุน ก็ทํานองนี้นะครับ เกิดจากการบริหารสภาพคล่องรวมกับโควิด สรุปกองเจ๊ง ยังดีที่ของผมได้เงินคืน แต่ตอนนี้ลูกค้า Zipmex เหมือนยังไม่ได้คืนทั้งหมดนะ ดังนั้นการเป็นเจ้าของบิทคอยอย่างแท้จริง เราต้องถอนบิทคอยมาเก็บด้วยตัวเองนะครับ ผมมีคลิปสอน โอนบิทคอยจาก exchange เข้า HW แบบจับมือทํา ไปดูกันได้ สรุป 1 โลกการเงินแบบเฟียต ระบบการเงินเก่าที่เราต้องอาศัย "ตัวกลาง" อย่างธนาคาร มีความเสี่ยงที่มองไม่เห็น หลายอย่าง เช่น ระบบ Fractional Reserve Banking ที่ทํากำไรให้แบงค์มหาศาล แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย คนก็จะถอนเงินไม่ได้แบบที่เคยเห็น 2 พวกเราทุกคนถูกทําให้เชื่อ และ ไว้ใจธนาคารในการจัดการเงิน ดูแลความมั่งคั่งโดยไม่ตั้งคําถามมาหลายสิบปี ธนาคารอาศัยช่องโหว่จากความเชื่อใจ ทําให้ระบบการเงินโลกเป็นไปตามที่คนมีอํานาจต้องการ เงินเฟียตที่เฟ้อขึ้นแบบอัตราเร่งทุกปี ประชาชนจนลงแบบอัตโนมัติ 3 ถามว่ามีคนเห็นความไม่ชอบมาพากลนี้มั้ย บอกเลยว่ามี แต่ด้วยอํานาจของฝั่งเงินเฟียต มันยิ่งใหญ่มาก ทําให้แนวคิดดีๆอย่าง Full Reserve Banking เกิดไม่ได้ 4 บิทคอยคือคําตอบครับ ถ้าตัวกลางทําให้เกิดปัญหา มนุษย์ที่ใช้ความเชื่อใจโกงคนอื่นทําให้เกิดปัญหา บิทคอยตัดปัจจัยพวกนี้ออกไป ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ตลอดเวลา ระบบรันมาแล้ว 16 ปี ผ่านการกระจายศูนย์ มีคนพยายามโจมตีตลอดเวลาแต่ด้วยคุณสมบัติความเป็น Antifragile ของบิทคอย ทําให้ทุกครั้งที่โดน บิทคอยจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ 5 การถือบิทคอยดีแล้ว แต่การเก็บไว้ใน exchange ก็ยังคงมีความเสี่ยงเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าต้องการเป็นเจ้าของบิทคอยอย่างแท้จริง ต้องโอนมาเก็บด้วยตัวเองใน HW 6 ใครยังลังเลไม่ต้องเชื่อผมให้ลองศึกษาด้วยตนเองก่อน จะได้ไม่รู้งี้ทีหลัง #siamstr #satsandsound #btc #bitcoin #ธนาคาร #ระบบการเงิน #อายัดบัญชี